ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

หยดเลือดบรรพชน...ลมหายใจของแผ่นดิน

 ยามอุษาคราแผ่นดินเดือด: รวมใจไทยเป็นหนึ่งเดียว ต้านภัยผู้รุกราน

ในโมงยามที่ประวัติศาสตร์ชาติไทยอาจต้องเผชิญกับบททดสอบอันยิ่งใหญ่ที่สุด นั่นคือ "สงครามจากผู้รุกราน" สิ่งที่จะเป็นเกราะคุ้มกันแผ่นดินทองของเราได้ดีที่สุด ไม่ใช่เพียงแสนยานุภาพทางการทหาร แต่คือ "หัวใจที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว" ของคนไทยทั้งชาติ

บัดนี้ ไม่ใช่เวลาแห่งความขัดแย้ง ไม่ใช่เวลาของสีเสื้อ หรือความเชื่อที่แตกต่าง ถึงเวลาแล้วที่เราต้องวางทุกสิ่งลง และจับมือกันให้มั่นในฐานะ "คนไทย" ผู้เป็นเจ้าของผืนแดินนี้ร่วมกัน

ปลุกจิตวิญญาณบรรพชน ตระหนักในหน้าที่ของทุกคน

ประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ชาติไทยรอดพ้นจากภัยคุกคามมาได้ด้วยความสามัคคีของบรรพบุรุษ นับตั้งแต่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกอบกู้เอกราช ไปจนถึงการรักษาอธิปไตยในยุคล่าอาณานิคม วันนี้ จิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญและความเสียสละนั้น ต้องถูกปลุกขึ้นมาในใจเราทุกคนอีกครั้ง

สงครามไม่ใช่เรื่องของทหารเพียงผู้เดียว แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน:

แนวหน้า: คือเหล่าทหารหาญ ตำรวจ และอาสาสมัคร ผู้สละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องทุกตารางนิ้วของแผ่นดิน พวกเขาคือวีรบุรุษและวีรสตรีที่เราต้องส่งกำลังใจและให้การสนับสนุนอย่างสุดกำลัง

แนวหลัง: คือประชาชนคนไทยทุกคน เราคือเสาหลักสำคัญที่จะค้ำจุนประเทศในยามวิกฤต บทบาทของเรายิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน "รักชาติ" ที่ต้องแสดงออกผ่าน "การกระทำ" ในภาวะสงคราม 


ความรักชาติต้องแปรเปลี่ยนเป็นพลัง
แห่งการกระทำที่เป็นรูปธรรม:

สามัคคีคือปราการเหล็ก: ยุติความขัดแย้งทั้งหมด หันหน้าเข้าหากัน พูดคุยกันด้วยความเข้าอกเข้าใจ ช่วยเหลือเพื่อนบ้านและคนในชุมชนโดยไม่แบ่งแยก นี่คือการสร้างเกราะป้องกันทางสังคมที่แข็งแกร่งที่สุด

สู้ด้วยสติ ต้านข่าวลวง: สงครามยุคใหม่มาพร้อมกับ "สงครามข่าวสาร" (Information Warfare) ผู้รุกรานจะพยายามสร้างความแตกแยก บั่นทอนกำลังใจด้วยข่าวปลอม

เช็คก่อนแชร์: รับฟังข่าวสารจากหน่วยงานราชการที่เชื่อถือได้เท่านั้น เช่น โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย หรือประกาศจากโฆษกของรัฐบาลและกองทัพ

อย่าหลงเชื่อ: ข่าวลือที่สร้างความเกลียดชังระหว่างคนในชาติ คืออาวุธของศัตรู

ปลุกใจด้วยความจริง: แบ่งปันเรื่องราวความเสียสละของเจ้าหน้าที่ เรื่องราวความช่วยเหลือกันของประชาชน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ

สนับสนุนแนวหน้า ค้ำจุนแนวหลัง:

บริจาคโลหิตและสิ่งของ: สิ่งของจำเป็น ยาและเวชภัณฑ์ คือสิ่งที่แนวหน้าต้องการ

ดูแลครอบครัวผู้เสียสละ: ครอบครัวของทหารและอาสาสมัครคือแนวหลังที่สำคัญที่สุด การดูแลพวกเขาคือการตอบแทนคุณแผ่นดิน

รักษาระเบียบวินัย: ปฏิบัติตามคำแนะนำของภาครัฐอย่างเคร่งครัด เช่น การพรางไฟ การซ้อมหลบภัย หรือการปันส่วนทรัพยากร

ทุกคนคือจิ๊กซอว์ของชาติ:

เกษตรกร: คือผู้รักษาความมั่นคงทางอาหารของชาติ

แพทย์ พยาบาล: คือผู้รักษาชีวิตทั้งในแนวหน้าและแนวหลัง

ช่างและวิศวกร: คือผู้ซ่อมแซมและสร้างสรรค์ยุทโธปกรณ์และสาธารณูปโภค

ครูอาจารย์: คือผู้ปลูกฝังความรักชาติและจิตสำนึกให้แก่เยาวชน

ประชาชนทั่วไป: คือผู้ส่งกำลังบำรุง คือผู้รักษาขวัญกำลังใจ และคือผู้สืบทอดความเป็นชาติ

"รักกัน" คืออาวุธสุดท้ายที่ศัตรูไม่มีวันทำลายได้

ท่ามกลางเสียงปืนและเปลวเพลิง สิ่งที่จะเยียวยาและนำทางเราได้คือ "ความรักและความเมตตาต่อเพื่อนร่วมชาติ" จงหยิบยื่นน้ำใจให้แก่กัน แบ่งปันอาหารแม้มีน้อย โอบกอดให้กำลังใจกันในยามท้อแท้

เมื่อใดที่ผู้รุกรานมองมาแล้วเห็นภาพคนไทยจับมือกันแน่น แบ่งปันรอยยิ้มให้แก่กันแม้ในยามลำบากที่สุด เมื่อนั้นพวกเขาจะตระหนักว่า... พวกเขาสามารถทำลายบ้านเมืองได้ แต่ไม่มีวันทำลาย "หัวใจของความเป็นไทย" ได้เลย

รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย รวมใจไทยให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อรักษาไว้ซึ่งเอกราชและอธิปไตยของแผ่นดินไทยตราบชั่วฟ้าดินสลาย

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลวงพ่อเงิน บางคลาน จอบใหญ่

เหรียญ จอบใหญ่ หลวงพ่อเงิน มีจุดตำหนิแห่งหนึ่ง ซึ่งนักเล่นจะให้สำคัญหรือเน้นการพิจารณามาก เพราะจะปรากฎพบทุกองค์นั้นจะสึกลบเลือนไปมากก็ยังเห็นอยู่ คือเส้นขอบเหรียญด้านล่างโย้ขึ้นไปจรดใต้ขาซ้ายแลดูคล้ายกับเส้นบล็อกแตกเป็นทางจากซุ้มไปจรดขา นอกจากนี้ก็ยังมีอีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งนักเล่นเก่งๆพยายามปกปิด หากสวยสมบูรณ์จะเห็น “เนื้อล้น”ที่ข้างหูด้านขวา หรือเหนือหัวไหล่ขวาเป็นสันนูนออกมาเล็กน้อยคล้าย “รอยพับ” อีกทั้งห่วงหูขวาจะปรากฏ “เม็ดไข่ปลา”และเส้นซุ้มแบบเดียวกับด้านข้างองค์พระ โดยมักจะสึกลบเลือน เนื่องเพราะเป็นจุดนูนเหรือบริเวณสัมผัส และความหนาของห่วงระดับใกล้เคียงกับ”ซุ้มข้างองค์พระ” ปัจจุบันเหรียญ “จอบใหญ่” หลวงพ่อเงิน ของแท้แน่นอนหายากมากๆ ส่วนของปลอมเลียนแบบฝีมือยังห่างไกล

สืบสานตำนาน "ทหารผี" สู่ "พระกริ่งบางหอย" สุดยอดมหาอุด คงกระพัน โดยหลวงพ่อจาด

เปิดกรุ "พระกริ่งบางหอย" มรดกหลวงพ่อจาด ที่นักสะสมต้องมี ราคาจับต้องได้ เครดิตภาพ: web pra พระกริ่ง บางหอย หลวงพ่อจาด แบ่งออกเป็น 3 พิมพ์ ด้วยกัน คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก พุทธลักษณะพระกริ่ง บางหอย หลวงพ่อจาด พุทธลักษณะคล้ายพระกริ่ง 79 สมเด็จพระสังฆราชแพ โดยเฉพาะ พิมพ์ใหญ่ ด้านหลังมีตัว อุ อยู่ตรงกลางฐาน หล่อด้วยเนื้อทองผสม บางองค์เนื้อจัดมาก ผิวแบบเนื้อสัมฤทธิ์ก็มี  บางองค์แก่ทองเหลือง บางองค์แก่ทองแดง ในพิธีการเททองหล่อพระกริ่ง บางหอย นี้ ได้จัดสร้าง พระรูปหล่อลอยองค์ หลวงพ่อจาด ด้วย แต่น้อยมาก  นักสะสมพระเครื่องส่วนใหญ่ไม่รู้จักยกเว้นคนพื้นที่ พระรูปหล่อลอยองค์มี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ฐานตอกชื่อ สวัสดิ์ ผ่องสกุล (สันนิษฐานว่าเป็นชื่อผู้สร้าง) , พิมพ์ฐานจาร(แต่บางคนองค์ไม่มี)พระกริ่ง บางหอย พิจารณาเล่นหาได้ง่าย และมีจำนวนพระเครื่องที่หมุนเวียนเปลี่ยนมือในวงการก็มีมากพอเพียง และที่สำคัญราคาเช่าหายังพอสู้กันไหว พระกริ่ง บางหอย พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก ส่วนใหญ่ที่พบมักจะหล่องดงามมาแต่เดิม จึงไม่จำเป็นต้องแต่ง แต่ก็มีบ้างที่แต่งเซาะเนื้อรายละเอียดบางแห่ง...

เหรียญหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา

เหรียญหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา พระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนยาวที่สุดถึง 117 ปี ท่านครองวัดซึ่งอยู่โดดเดี่ยวภายในแวดวงของอิสลามมิกชน ขอบคุณภาพสวยๆจาก ทีนิวส์ หลวงปู่ทองเหรียญหน้าจมเป็นเหรียญที่แกะด้วยฝีมือเป็นเลิศ เหรียญหลวงปู่ทองรุ่นแรกนี้ สร้างในราว ปี พ.ศ.2480 ซึ่งเป็น พระเครื่อง เหรียญรูปหลวงปู่เหรียญเดียวเท่านั้นที่สร้างในขณะที่ท่านยังดำรงชีวิตอยู่นอกจากเหรียญรุ่นนี้แล้ว ปรากฏว่า มีสานุศิษย์ของหลวงปู่ทองได้สร้างขึ้นอีก 2-3 แบบ สำหรับพระเครื่องวัตถุมงคลเหรียญหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา รุ่น 1 ซึ่งท่านอาจารย์แก้ว คำวิบูลย์ เป็นผู้สร้างนี้มีอยู่ด้วยกัน 2 พิมพ์ด้วยกัน พิมพ์หนึ่งเรียกว่า พิมพ์หน้าลอย พิมพ์นี้ รูปท่านลายเด่นอยู่เหนือพื้นเหรียญ สำหรับอีกพิมพ์หนึ่งเรียกว่า พิมพ์หน้าจม นั้น รูปหน้าท่านจมลงไปในพื้นเหรียญอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่แสดงเป็นเบ้าตา , แก้มที่ตอบและรูปปากของท่านด้วยเอกลักษณะของพิมพ์ดังกล่าวแล้ว นักสะสมพระเครื่องจึงแยกเป็น พิมพ์หน้าลอยและพิมพ์หน้าจมสำหรับรายละเอียดนั้นเหมือนกันทั้ง ๒ พิมพ์ ผิดแต่ขนาดของพิมพ์หน้าลอยเล็กกว่าพิมพ์หน้าจมเล็กน้อยเท่าน...