ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เพลง โอบกกอดของท้องฟ้า

 เมื่อเสียงเพลงคือเพื่อน... ในวันที่ใจต้องการใครสักคน

ณ วินาทีนี้... ที่คุณกำลังปล่อยให้เสียงเพลงทำหน้าที่ของมัน บางทีคุณอาจกำลังนั่งอยู่เงียบๆ ในห้องคนเดียว มองออกไปนอกหน้าต่าง หรือแม้แต่กำลังเดินทางอยู่บนรถ ปล่อยให้ท่วงทำนองพาความคิดล่องลอยไป


ไม่ว่าเพลงที่คุณกำลังฟังอยู่นี้จะเป็นเพลงเศร้าที่เข้าใจความรู้สึกในใจ เป็นเพลงรักหวานซึ้งที่ทำให้คิดถึงใครบางคน หรือเป็นเพลงที่ไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ... ขอให้รู้ไว้ว่า การเลือกเปิดเพลงฟังในตอนนี้นั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันคือวิธีที่จิตใจของคุณกำลังบอกว่า "ฉันต้องการการปลอบโยน" และนั่นคือสิ่งที่คุณควรภูมิใจที่ได้รับฟังเสียงของหัวใจตัวเอง

เคยรู้สึกไหมว่าบางครั้ง เราก็แค่ต้องการพื้นที่เงียบๆ ที่มีเพียงเสียงเพลงเป็นเพื่อน พื้นที่ที่ไม่ต้องอธิบายความรู้สึกให้ใครฟัง ไม่ต้องพยายามเข้มแข็ง ไม่ต้องฝืนยิ้ม บทเพลงแต่ละเพลงจึงเปรียบเสมือนห้องส่วนตัวที่เราสามารถเข้าไปพักพิง ปลดปล่อยความรู้สึกทุกอย่างออกมาได้อย่างปลอดภัย


หากวันนี้เป็นวันที่คุณรู้สึกเหนื่อยล้า... ขอให้เมโลดี้ที่ได้ยินช่วยนวดคลึงความอ่อนล้าในใจ ให้จังหวะของมันช่วยพยุงให้คุณได้หายใจช้าลง ปล่อยวางภาระหนักอึ้งที่แบกไว้บนบ่าชั่วคราว ไม่เป็นไรเลยที่จะรู้สึกเหนื่อย การหยุดพักไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการเติมพลังเพื่อไปต่อ

หากวันนี้เป็นวันที่คุณรู้สึกโดดเดี่ยว... ขอให้เสียงของนักร้องคนนั้นเป็นเหมือนเสียงกระซิบข้างหูว่า "เธอไม่ได้อยู่คนเดียว" บนโลกใบนี้ มีอีกหลายล้านคนที่อาจกำลังรู้สึกแบบเดียวกับคุณในขณะที่ฟังเพลงเดียวกันนี้อยู่ก็ได้ ให้เสียงดนตรีเป็นเหมือนเส้นใยบางๆ ที่เชื่อมโยงความรู้สึกของคุณเข้าไว้กับโลกใบนี้

และหากวันนี้เป็นวันที่คุณกำลังสับสน... ไม่รู้จะไปทางไหนต่อ ขอให้เนื้อเพลงที่คุณได้ยินเป็นเหมือนป้ายบอกทางเล็กๆ หรือเป็นเพียงคำถามที่ช่วยให้คุณได้ทบทวนกับตัวเอง อาจไม่มีคำตอบสำเร็จรูปในบทเพลงนั้น แต่บางครั้ง... การได้อยู่กับคำถามที่ใช่ ก็ดีกว่าการรีบคว้าคำตอบที่ผิด

ไม่ว่าคุณจะเผชิญกับเรื่องราวอะไรมาก็ตาม... การที่คุณเลือกที่จะฮีลใจตัวเองด้วยเสียงเพลง คือความเข้มแข็งอย่างหนึ่ง มันคือการยอมรับความรู้สึกของตัวเองอย่างซื่อสัตย์

ตอนนี้... ลองหายใจเข้าลึกๆ... แล้วหายใจออกช้าๆ ปล่อยให้เสียงเพลงโอบกอดคุณเอาไว้เหมือนเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไร แต่เรากลับรู้สึกได้ถึงความห่วงใยทั้งหมดที่เขามีให้

ให้ดนตรีได้ทำหน้าที่ของมัน...เยียวยา ปลอบประโลม และอยู่เป็นเพื่อนคุณตรงนี้ จนกว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้น

แล้วเมื่อเพลงนี้จบลง... ขอให้คุณได้พบกับความสงบในใจอีกครั้ง พร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปด้วยหัวใจที่แข็งแรงกว่าเดิมนะคะ.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลวงพ่อเงิน บางคลาน จอบใหญ่

เหรียญ จอบใหญ่ หลวงพ่อเงิน มีจุดตำหนิแห่งหนึ่ง ซึ่งนักเล่นจะให้สำคัญหรือเน้นการพิจารณามาก เพราะจะปรากฎพบทุกองค์นั้นจะสึกลบเลือนไปมากก็ยังเห็นอยู่ คือเส้นขอบเหรียญด้านล่างโย้ขึ้นไปจรดใต้ขาซ้ายแลดูคล้ายกับเส้นบล็อกแตกเป็นทางจากซุ้มไปจรดขา นอกจากนี้ก็ยังมีอีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งนักเล่นเก่งๆพยายามปกปิด หากสวยสมบูรณ์จะเห็น “เนื้อล้น”ที่ข้างหูด้านขวา หรือเหนือหัวไหล่ขวาเป็นสันนูนออกมาเล็กน้อยคล้าย “รอยพับ” อีกทั้งห่วงหูขวาจะปรากฏ “เม็ดไข่ปลา”และเส้นซุ้มแบบเดียวกับด้านข้างองค์พระ โดยมักจะสึกลบเลือน เนื่องเพราะเป็นจุดนูนเหรือบริเวณสัมผัส และความหนาของห่วงระดับใกล้เคียงกับ”ซุ้มข้างองค์พระ” ปัจจุบันเหรียญ “จอบใหญ่” หลวงพ่อเงิน ของแท้แน่นอนหายากมากๆ ส่วนของปลอมเลียนแบบฝีมือยังห่างไกล

สืบสานตำนาน "ทหารผี" สู่ "พระกริ่งบางหอย" สุดยอดมหาอุด คงกระพัน โดยหลวงพ่อจาด

เปิดกรุ "พระกริ่งบางหอย" มรดกหลวงพ่อจาด ที่นักสะสมต้องมี ราคาจับต้องได้ เครดิตภาพ: web pra พระกริ่ง บางหอย หลวงพ่อจาด แบ่งออกเป็น 3 พิมพ์ ด้วยกัน คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก พุทธลักษณะพระกริ่ง บางหอย หลวงพ่อจาด พุทธลักษณะคล้ายพระกริ่ง 79 สมเด็จพระสังฆราชแพ โดยเฉพาะ พิมพ์ใหญ่ ด้านหลังมีตัว อุ อยู่ตรงกลางฐาน หล่อด้วยเนื้อทองผสม บางองค์เนื้อจัดมาก ผิวแบบเนื้อสัมฤทธิ์ก็มี  บางองค์แก่ทองเหลือง บางองค์แก่ทองแดง ในพิธีการเททองหล่อพระกริ่ง บางหอย นี้ ได้จัดสร้าง พระรูปหล่อลอยองค์ หลวงพ่อจาด ด้วย แต่น้อยมาก  นักสะสมพระเครื่องส่วนใหญ่ไม่รู้จักยกเว้นคนพื้นที่ พระรูปหล่อลอยองค์มี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ฐานตอกชื่อ สวัสดิ์ ผ่องสกุล (สันนิษฐานว่าเป็นชื่อผู้สร้าง) , พิมพ์ฐานจาร(แต่บางคนองค์ไม่มี)พระกริ่ง บางหอย พิจารณาเล่นหาได้ง่าย และมีจำนวนพระเครื่องที่หมุนเวียนเปลี่ยนมือในวงการก็มีมากพอเพียง และที่สำคัญราคาเช่าหายังพอสู้กันไหว พระกริ่ง บางหอย พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก ส่วนใหญ่ที่พบมักจะหล่องดงามมาแต่เดิม จึงไม่จำเป็นต้องแต่ง แต่ก็มีบ้างที่แต่งเซาะเนื้อรายละเอียดบางแห่ง...

เหรียญหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา

เหรียญหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา พระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนยาวที่สุดถึง 117 ปี ท่านครองวัดซึ่งอยู่โดดเดี่ยวภายในแวดวงของอิสลามมิกชน ขอบคุณภาพสวยๆจาก ทีนิวส์ หลวงปู่ทองเหรียญหน้าจมเป็นเหรียญที่แกะด้วยฝีมือเป็นเลิศ เหรียญหลวงปู่ทองรุ่นแรกนี้ สร้างในราว ปี พ.ศ.2480 ซึ่งเป็น พระเครื่อง เหรียญรูปหลวงปู่เหรียญเดียวเท่านั้นที่สร้างในขณะที่ท่านยังดำรงชีวิตอยู่นอกจากเหรียญรุ่นนี้แล้ว ปรากฏว่า มีสานุศิษย์ของหลวงปู่ทองได้สร้างขึ้นอีก 2-3 แบบ สำหรับพระเครื่องวัตถุมงคลเหรียญหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา รุ่น 1 ซึ่งท่านอาจารย์แก้ว คำวิบูลย์ เป็นผู้สร้างนี้มีอยู่ด้วยกัน 2 พิมพ์ด้วยกัน พิมพ์หนึ่งเรียกว่า พิมพ์หน้าลอย พิมพ์นี้ รูปท่านลายเด่นอยู่เหนือพื้นเหรียญ สำหรับอีกพิมพ์หนึ่งเรียกว่า พิมพ์หน้าจม นั้น รูปหน้าท่านจมลงไปในพื้นเหรียญอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่แสดงเป็นเบ้าตา , แก้มที่ตอบและรูปปากของท่านด้วยเอกลักษณะของพิมพ์ดังกล่าวแล้ว นักสะสมพระเครื่องจึงแยกเป็น พิมพ์หน้าลอยและพิมพ์หน้าจมสำหรับรายละเอียดนั้นเหมือนกันทั้ง ๒ พิมพ์ ผิดแต่ขนาดของพิมพ์หน้าลอยเล็กกว่าพิมพ์หน้าจมเล็กน้อยเท่าน...