ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

หลับสร้างสุข: เปลี่ยนการนอนให้เป็นการลงทุนสุขภาพที่ดีที่สุด

 พลิกวิกฤตการนอน สู่การพักผ่อนที่ดีที่สุดในชีวิต




1.ความสำคัญของการนอนหลับที่ดี:การนอนหลับเป็นกระบวนการสำคัญในการเก็บสะสมพลังงานของร่างกายและสมอง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันใหม่ การนอนหลับที่ดีมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพในการทำงาน ความจำ สมาธิ และสุขภาพโดยรวม การนอนหลับและการตื่นเป็นสองระบบที่ทำงานคู่ขนานกัน เมื่อระบบหนึ่งทำงาน อีกระบบจะต้องหยุดเพื่อให้เกิดความสมดุล

2.  การบอกว่านอนดีหรือไม่ดี: การนอนดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก คือ เวลา (ปริมาณ) และ คุณภาพ โดยตัวเราเองจะเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าเรานอนพอหรือไม่

       สัญญาณที่อาจบ่งบอกว่านอนไม่พอ ได้แก่ ตื่นเช้ามาแล้วไม่สดชื่น งัวเงีย, รู้สึกง่วงนอนในตอนกลางวัน, และมีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย

3.  ปัจจัยที่ส่งผลต่อการนอนหลับ:

    พันธุกรรม (Genetics): กำหนดความต้องการการนอนของแต่ละบุคคล มีรายงานยีน DC2 ที่ทำให้บางคนต้องการนอนน้อยกว่าปกติ พันธุกรรมยังกำหนดแนวโน้มการเป็นคนนอนเร็ว (Larks) นอนตามปกติ หรือนอนดึก (Owls)

    สิ่งแวดล้อม (Environment): มีบทบาทในการบ่มเพาะพฤติกรรมการนอนและใช้ชีวิต สิ่งแวดล้อมทางสังคมอาจมีอิทธิพลต่อเวลาเข้านอนตื่นนอนมากกว่าพันธุกรรม การใช้ชีวิตที่ขัดกับนาฬิกาชีวภาพตามธรรมชาติ เช่น การทำงานเป็นกะ (Shift Work Disorder) มักส่งผลให้การนอนไม่มีคุณภาพในระยะยาว

4.  ผลกระทบจากการนอนไม่พอ/นอนไม่ดี: หากนอนไม่ดีบ่อยๆ จะเกิดภาวะอดนอน ซึ่งส่งผลกระทบทั้งร่างกายและจิตใจ

    ต่อร่างกาย: เสียสมดุลในร่างกาย (Sympathetic ทำงานมาก Parasympathetic ทำสู้ไม่ได้), เพิ่มความเครียดและการอักเสบ, ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง, เพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน, อ้วนง่ายขึ้น (โดยเฉพาะกลุ่มทำงานกะ), และอาจมีโอกาสเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น หนี้การนอนสะสมในระยะยาว ถึงตายได้

    ต่อจิตใจและสมอง สมองทำงานแย่ลง (ความจำ สมาธิ การเรียนรู้ลดลง), ประสิทธิภาพการทำงานลดลง, เสี่ยงอุบัติเหตุมากขึ้น (อาจมีภาวะหลับใน), เป็นซึมเศร้าได้ง่าย (อินซอมเนียอาจเป็นประตูสู่โรคอื่น โดย 30% ของคนซึมเศร้ามีปัญหาการนอนนำมาก่อน) และการจำความฝันได้บ่อยๆ อาจเกี่ยวข้องกับปัญหาสมองเสื่อมได้


5.  สิ่งต่างๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงก่อนนอน: เพื่อช่วยให้ร่างกาย "ชะลอความเร็ว" และเตรียมพร้อมสำหรับการนอนหลับ

    คาเฟอีน: กาแฟ 1 แก้วมีฤทธิ์ได้ถึง 12 ชั่วโมง ชาก็มีคาเฟอีนเช่นกัน ควรหลีกเลี่ยงการดื่มใกล้เวลานอน เพราะรบกวนการหลับได้ อาจทำให้กรดไหลย้อน หรืออาการขาอยู่ไม่สุข ได้

    แอลกอฮอล์: แม้จะทำให้หลับเร็วขึ้น แต่เมื่อระดับแอลกอฮอล์ลดลง จะเกิดอาการคล้ายถอนยา ทำให้ตื่นบ่อยและนอนไม่สนิท เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

    การออกกำลังกายอย่างหนัก: หลีกเลี่ยงภายใน 3 ชั่วโมงก่อนนอน เพราะร่างกายยังมีความเร็วสูง และอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ซึ่งขัดกับธรรมชาติของการนอน การออกกำลังกายเบาๆ ทำได้

    การรับประทานอาหารมื้อหนัก: หลีกเลี่ยงประมาณ 3-4 ชั่วโมงก่อนนอน การไม่ทานอาหารหลัง 18:00 น. (IF) อาจช่วยลดกรดไหลย้อน

    การนอนกลางวันนานหรือผิดเวลา: ควรงีบสั้นๆ 20-40 นาที และไม่ควรนอนหลัง 14:00 น. เพราะอาจรบกวนการนอนกลางคืน การงีบนานกว่า 40 นาทีอาจทำให้เกิดภาวะเฉื่อยในการนอน (Sleep Inertia) คือตื่นแล้วงัวเงีย

    แสงสีฟ้า (Blue Light): ระยะเวลาที่ได้รับจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอนสำคัญ การสัมผัสแสงสีฟ้านานๆ อาจรบกวนการหลับได้

    การนอนไม่เป็นเวลา: การเปลี่ยนเวลานอนบ่อยๆ ทำให้ร่างกายปรับตัวยาก การมีตารางเวลานอนที่สม่ำเสมอสำคัญกว่า

    การปล่อยให้สมองคิดเรื่องค้างคาใจ: ควรจัดการความคิดก่อนนอน เช่น เขียนสิ่งที่กังวลออกมาบนกระดาษอย่างน้อย 5 เรื่อง เพื่อปลดปล่อยความคิดที่วนเวียน


6.  สุขอนามัยการนอนที่ดีอื่นๆ: การทำ Sleep Diary เพื่อจดบันทึกพฤติกรรมการนอน จะช่วยให้เข้าใจและปรับตารางเวลานอนให้เหมาะสม การสร้าง Slow Down Process ก่อนนอน เช่น อาบน้ำอุ่น การควบคุมอุณหภูมิในห้องนอน และการใช้ Meditation ช่วยจัดการความเครียดหรือความคิดวนเวียน


โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลวงพ่อเงิน บางคลาน จอบใหญ่

เหรียญ จอบใหญ่ หลวงพ่อเงิน มีจุดตำหนิแห่งหนึ่ง ซึ่งนักเล่นจะให้สำคัญหรือเน้นการพิจารณามาก เพราะจะปรากฎพบทุกองค์นั้นจะสึกลบเลือนไปมากก็ยังเห็นอยู่ คือเส้นขอบเหรียญด้านล่างโย้ขึ้นไปจรดใต้ขาซ้ายแลดูคล้ายกับเส้นบล็อกแตกเป็นทางจากซุ้มไปจรดขา นอกจากนี้ก็ยังมีอีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งนักเล่นเก่งๆพยายามปกปิด หากสวยสมบูรณ์จะเห็น “เนื้อล้น”ที่ข้างหูด้านขวา หรือเหนือหัวไหล่ขวาเป็นสันนูนออกมาเล็กน้อยคล้าย “รอยพับ” อีกทั้งห่วงหูขวาจะปรากฏ “เม็ดไข่ปลา”และเส้นซุ้มแบบเดียวกับด้านข้างองค์พระ โดยมักจะสึกลบเลือน เนื่องเพราะเป็นจุดนูนเหรือบริเวณสัมผัส และความหนาของห่วงระดับใกล้เคียงกับ”ซุ้มข้างองค์พระ” ปัจจุบันเหรียญ “จอบใหญ่” หลวงพ่อเงิน ของแท้แน่นอนหายากมากๆ ส่วนของปลอมเลียนแบบฝีมือยังห่างไกล

สืบสานตำนาน "ทหารผี" สู่ "พระกริ่งบางหอย" สุดยอดมหาอุด คงกระพัน โดยหลวงพ่อจาด

เปิดกรุ "พระกริ่งบางหอย" มรดกหลวงพ่อจาด ที่นักสะสมต้องมี ราคาจับต้องได้ เครดิตภาพ: web pra พระกริ่ง บางหอย หลวงพ่อจาด แบ่งออกเป็น 3 พิมพ์ ด้วยกัน คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก พุทธลักษณะพระกริ่ง บางหอย หลวงพ่อจาด พุทธลักษณะคล้ายพระกริ่ง 79 สมเด็จพระสังฆราชแพ โดยเฉพาะ พิมพ์ใหญ่ ด้านหลังมีตัว อุ อยู่ตรงกลางฐาน หล่อด้วยเนื้อทองผสม บางองค์เนื้อจัดมาก ผิวแบบเนื้อสัมฤทธิ์ก็มี  บางองค์แก่ทองเหลือง บางองค์แก่ทองแดง ในพิธีการเททองหล่อพระกริ่ง บางหอย นี้ ได้จัดสร้าง พระรูปหล่อลอยองค์ หลวงพ่อจาด ด้วย แต่น้อยมาก  นักสะสมพระเครื่องส่วนใหญ่ไม่รู้จักยกเว้นคนพื้นที่ พระรูปหล่อลอยองค์มี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ฐานตอกชื่อ สวัสดิ์ ผ่องสกุล (สันนิษฐานว่าเป็นชื่อผู้สร้าง) , พิมพ์ฐานจาร(แต่บางคนองค์ไม่มี)พระกริ่ง บางหอย พิจารณาเล่นหาได้ง่าย และมีจำนวนพระเครื่องที่หมุนเวียนเปลี่ยนมือในวงการก็มีมากพอเพียง และที่สำคัญราคาเช่าหายังพอสู้กันไหว พระกริ่ง บางหอย พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก ส่วนใหญ่ที่พบมักจะหล่องดงามมาแต่เดิม จึงไม่จำเป็นต้องแต่ง แต่ก็มีบ้างที่แต่งเซาะเนื้อรายละเอียดบางแห่ง...

เหรียญหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา

เหรียญหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา พระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนยาวที่สุดถึง 117 ปี ท่านครองวัดซึ่งอยู่โดดเดี่ยวภายในแวดวงของอิสลามมิกชน ขอบคุณภาพสวยๆจาก ทีนิวส์ หลวงปู่ทองเหรียญหน้าจมเป็นเหรียญที่แกะด้วยฝีมือเป็นเลิศ เหรียญหลวงปู่ทองรุ่นแรกนี้ สร้างในราว ปี พ.ศ.2480 ซึ่งเป็น พระเครื่อง เหรียญรูปหลวงปู่เหรียญเดียวเท่านั้นที่สร้างในขณะที่ท่านยังดำรงชีวิตอยู่นอกจากเหรียญรุ่นนี้แล้ว ปรากฏว่า มีสานุศิษย์ของหลวงปู่ทองได้สร้างขึ้นอีก 2-3 แบบ สำหรับพระเครื่องวัตถุมงคลเหรียญหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา รุ่น 1 ซึ่งท่านอาจารย์แก้ว คำวิบูลย์ เป็นผู้สร้างนี้มีอยู่ด้วยกัน 2 พิมพ์ด้วยกัน พิมพ์หนึ่งเรียกว่า พิมพ์หน้าลอย พิมพ์นี้ รูปท่านลายเด่นอยู่เหนือพื้นเหรียญ สำหรับอีกพิมพ์หนึ่งเรียกว่า พิมพ์หน้าจม นั้น รูปหน้าท่านจมลงไปในพื้นเหรียญอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่แสดงเป็นเบ้าตา , แก้มที่ตอบและรูปปากของท่านด้วยเอกลักษณะของพิมพ์ดังกล่าวแล้ว นักสะสมพระเครื่องจึงแยกเป็น พิมพ์หน้าลอยและพิมพ์หน้าจมสำหรับรายละเอียดนั้นเหมือนกันทั้ง ๒ พิมพ์ ผิดแต่ขนาดของพิมพ์หน้าลอยเล็กกว่าพิมพ์หน้าจมเล็กน้อยเท่าน...