ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บ้านสวนแห่งความสุขของครอบครัว นายพีพี

บ้านสวนแห่งความสุขของครอบครัว นายพีพี

กลิ่นอายความอบอุ่นของการใช้ชีวิตร่วมกัน

บ้านสวนหลังเล็กของครอบครัว 'นายพีพี' ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองพิจิตรนัก แม้พื้นที่จะไม่กว้างขวางเท่าไร แต่ก็เต็มไปด้วยความรักและความสุขของพ่อ แม่ และ 'พีพี' ลูกชายวัยเจ็ดขวบ ทุกมุมของบ้านอบอวลไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

ตอนเช้า ดวงอาทิตย์ส่องแสงอ่อนๆ ผ่านม่านไม้เลื้อยเข้ามาในห้องครัว ส่งกลิ่นหอมของข้าวต้มร้อนๆ ที่แม่ทำปลุกทุกคนให้ตื่น พีพีจะรีบวิ่งไปกอดพ่อกับแม่ก่อนจะมานั่งกินข้าวด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย ทุกวันเต็มไปด้วยเรื่องเล่าสนุกๆ ที่พ่อกับแม่ผลัดกันเล่าให้พีพีฟัง บางทีก็เป็นเรื่องนิทานปรัมปรา บางทีก็เป็นเรื่องตลกที่เจอมาในแต่ละวัน


เมื่อถึงช่วงบ่ายคล้อย แสงแดดเริ่มอ่อนลง เป็นเวลาที่พ่อกับพีพีจะออกไปสนุกกันที่สนามหญ้าเล็กๆ หลังบ้าน พ่อจะหยิบ ลูกฟุตบอล เก่าๆ แต่ยังคงสภาพดีออกมา พีพีจะวิ่งนำหน้าด้วยความกระตือรือร้น เขารอคอยช่วงเวลานี้มาทั้งวัน พ่อกับลูกชายจะเริ่มเตะฟุตบอลกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะของพีพีดังขึ้นเมื่อเขาเลี้ยงลูกหลบพ่อได้ หรือเมื่อเขายิงประตูเข้าอย่างจัง ส่วนพ่อก็แกล้งล้มบ้าง ทำท่าทางประหลาดๆ บ้าง เพื่อให้พีพีได้หัวเราะอย่างเต็มที่ บางครั้งพีพีก็พยายามทำท่าเตะเลียนแบบนักฟุตบอลที่เห็นในทีวี แม้จะยังเก้ๆ กังๆ แต่พ่อก็ชื่นชมและให้กำลังใจเสมอ


ในขณะเดียวกัน แม่ ก็จะอยู่ในครัว กลิ่นหอมของอาหารเย็นเริ่มลอยออกมาจากหน้าต่างครัว คละเคล้าไปกับเสียงหัวเราะของพ่อลูกที่สนาม แม่มักจะยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินเสียงเหล่านั้น เธอตั้งใจปรุงอาหารจานโปรดของทุกคนอย่างพิถีพิถัน วันนี้เป็นแกงจืดเต้าหู้หมูสับและไก่ทอดเกลือที่พีพีชอบ และผัดผักรวมมิตรที่พ่อชอบกิน

เมื่อเสียงตะวันลับขอบฟ้า พ่อกับพีพีก็จะกลับเข้ามาในบ้าน เนื้อตัวเปื้อนเหงื่อและดินเล็กน้อย แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข แม่จะยื่นผ้าเย็นให้เช็ดหน้าเช็ดตา ก่อนที่ทุกคนจะมานั่งล้อมวงกันที่โต๊ะอาหารเล็กๆ เสียงพูดคุยและรอยยิ้มยังคงอยู่ตลอดมื้อเย็น อาหารเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความรักและความอบอุ่น


บ้านสวนแห่งนี้อาจจะไม่ได้ใหญ่โตโอ่อ่า แต่สำหรับครอบครัวนายพีพีแล้ว มันคือโลกทั้งใบที่เต็มไปด้วยความสุข ความผูกพัน และความทรงจำอันแสนอบอุ่นที่ไม่มีวันลืมเลือน

คุณมีความทรงจำวัยเด็กที่บ้านเต็มไปด้วยความอบอุ่นแบบนี้บ้างไหม?


โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลวงพ่อเงิน บางคลาน จอบใหญ่

เหรียญ จอบใหญ่ หลวงพ่อเงิน มีจุดตำหนิแห่งหนึ่ง ซึ่งนักเล่นจะให้สำคัญหรือเน้นการพิจารณามาก เพราะจะปรากฎพบทุกองค์นั้นจะสึกลบเลือนไปมากก็ยังเห็นอยู่ คือเส้นขอบเหรียญด้านล่างโย้ขึ้นไปจรดใต้ขาซ้ายแลดูคล้ายกับเส้นบล็อกแตกเป็นทางจากซุ้มไปจรดขา นอกจากนี้ก็ยังมีอีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งนักเล่นเก่งๆพยายามปกปิด หากสวยสมบูรณ์จะเห็น “เนื้อล้น”ที่ข้างหูด้านขวา หรือเหนือหัวไหล่ขวาเป็นสันนูนออกมาเล็กน้อยคล้าย “รอยพับ” อีกทั้งห่วงหูขวาจะปรากฏ “เม็ดไข่ปลา”และเส้นซุ้มแบบเดียวกับด้านข้างองค์พระ โดยมักจะสึกลบเลือน เนื่องเพราะเป็นจุดนูนเหรือบริเวณสัมผัส และความหนาของห่วงระดับใกล้เคียงกับ”ซุ้มข้างองค์พระ” ปัจจุบันเหรียญ “จอบใหญ่” หลวงพ่อเงิน ของแท้แน่นอนหายากมากๆ ส่วนของปลอมเลียนแบบฝีมือยังห่างไกล

สืบสานตำนาน "ทหารผี" สู่ "พระกริ่งบางหอย" สุดยอดมหาอุด คงกระพัน โดยหลวงพ่อจาด

เปิดกรุ "พระกริ่งบางหอย" มรดกหลวงพ่อจาด ที่นักสะสมต้องมี ราคาจับต้องได้ เครดิตภาพ: web pra พระกริ่ง บางหอย หลวงพ่อจาด แบ่งออกเป็น 3 พิมพ์ ด้วยกัน คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก พุทธลักษณะพระกริ่ง บางหอย หลวงพ่อจาด พุทธลักษณะคล้ายพระกริ่ง 79 สมเด็จพระสังฆราชแพ โดยเฉพาะ พิมพ์ใหญ่ ด้านหลังมีตัว อุ อยู่ตรงกลางฐาน หล่อด้วยเนื้อทองผสม บางองค์เนื้อจัดมาก ผิวแบบเนื้อสัมฤทธิ์ก็มี  บางองค์แก่ทองเหลือง บางองค์แก่ทองแดง ในพิธีการเททองหล่อพระกริ่ง บางหอย นี้ ได้จัดสร้าง พระรูปหล่อลอยองค์ หลวงพ่อจาด ด้วย แต่น้อยมาก  นักสะสมพระเครื่องส่วนใหญ่ไม่รู้จักยกเว้นคนพื้นที่ พระรูปหล่อลอยองค์มี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ฐานตอกชื่อ สวัสดิ์ ผ่องสกุล (สันนิษฐานว่าเป็นชื่อผู้สร้าง) , พิมพ์ฐานจาร(แต่บางคนองค์ไม่มี)พระกริ่ง บางหอย พิจารณาเล่นหาได้ง่าย และมีจำนวนพระเครื่องที่หมุนเวียนเปลี่ยนมือในวงการก็มีมากพอเพียง และที่สำคัญราคาเช่าหายังพอสู้กันไหว พระกริ่ง บางหอย พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก ส่วนใหญ่ที่พบมักจะหล่องดงามมาแต่เดิม จึงไม่จำเป็นต้องแต่ง แต่ก็มีบ้างที่แต่งเซาะเนื้อรายละเอียดบางแห่ง...

เหรียญหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา

เหรียญหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา พระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนยาวที่สุดถึง 117 ปี ท่านครองวัดซึ่งอยู่โดดเดี่ยวภายในแวดวงของอิสลามมิกชน ขอบคุณภาพสวยๆจาก ทีนิวส์ หลวงปู่ทองเหรียญหน้าจมเป็นเหรียญที่แกะด้วยฝีมือเป็นเลิศ เหรียญหลวงปู่ทองรุ่นแรกนี้ สร้างในราว ปี พ.ศ.2480 ซึ่งเป็น พระเครื่อง เหรียญรูปหลวงปู่เหรียญเดียวเท่านั้นที่สร้างในขณะที่ท่านยังดำรงชีวิตอยู่นอกจากเหรียญรุ่นนี้แล้ว ปรากฏว่า มีสานุศิษย์ของหลวงปู่ทองได้สร้างขึ้นอีก 2-3 แบบ สำหรับพระเครื่องวัตถุมงคลเหรียญหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา รุ่น 1 ซึ่งท่านอาจารย์แก้ว คำวิบูลย์ เป็นผู้สร้างนี้มีอยู่ด้วยกัน 2 พิมพ์ด้วยกัน พิมพ์หนึ่งเรียกว่า พิมพ์หน้าลอย พิมพ์นี้ รูปท่านลายเด่นอยู่เหนือพื้นเหรียญ สำหรับอีกพิมพ์หนึ่งเรียกว่า พิมพ์หน้าจม นั้น รูปหน้าท่านจมลงไปในพื้นเหรียญอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่แสดงเป็นเบ้าตา , แก้มที่ตอบและรูปปากของท่านด้วยเอกลักษณะของพิมพ์ดังกล่าวแล้ว นักสะสมพระเครื่องจึงแยกเป็น พิมพ์หน้าลอยและพิมพ์หน้าจมสำหรับรายละเอียดนั้นเหมือนกันทั้ง ๒ พิมพ์ ผิดแต่ขนาดของพิมพ์หน้าลอยเล็กกว่าพิมพ์หน้าจมเล็กน้อยเท่าน...