ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เมื่อโลกตะลึง! สื่ออิหร่านยกย่อง “กองทัพไทย” สุดยอดนักบูรณาการ เชื่อมอาวุธต่างค่ายด้วยมันสมองคนไทยผ่านระบบ "Link T"



ในโลกของการทหารและการป้องกันประเทศ การมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยนับเป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ "การบริหารจัดการ" ให้เขี้ยวเล็บเหล่านั้นทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ ล่าสุด สื่อจากประเทศอิหร่านได้ตีข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของกองทัพไทยด้วยความทึ่ง โดยยกย่องศักยภาพในการบูรณาการอาวุธจากหลายชาติให้เป็นหนึ่งเดียว

ความท้าทาย:แห่งคลังแสง

สิ่งที่สื่ออิหร่านให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือความหลากหลายของยุทโธปกรณ์ประจำการในกองทัพไทย ซึ่งเปรียบเสมือนการรวมเอาเทคโนโลยีชั้นนำจากทั่วโลกมาไว้ด้วยกัน อาทิ:

  • F-16: เครื่องบินขับไล่จากสหรัฐอเมริกา

  • Gripen: เครื่องบินขับไล่จากสวีเดน

  • Caesar: ปืนใหญ่อัตราจรจากฝรั่งเศส

  • ATMOS 2000: ปืนใหญ่อัตราจรจากอิสราเอล

โดยปกติแล้ว อาวุธจากต่างค่ายต่างประเทศมักจะมีระบบปฏิบัติการ (Operating System) และระบบสื่อสารที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การจะนำมาใช้ร่วมกันในสนามรบจริงจึงเป็นเรื่องยากลำบาก เปรียบเสมือนการพยายามนำมือถือระบบ iOS (iPhone) มาเชื่อมต่อข้อมูลกับ Android ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วมักจะคุยกันไม่รู้เรื่อง

"Link T" กุญแจสำคัญจากมันสมองวิศวกรไทย

จุดที่ทำให้อิหร่านทึ่งจนต้องรายงานข่าว คือความสามารถของกองทัพไทยในการทลายกำแพงเทคโนโลยีเหล่านั้นลงได้ ด้วยระบบที่ชื่อว่า "Link T" (Link Thailand)

Link T คือระบบเครือข่ายเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีที่พัฒนาขึ้นโดย "ฝีมือวิศวกรคนไทย" เอง ระบบนี้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการแปลงสัญญาณและเชื่อมต่อข้อมูลจากอาวุธต่างระบบ ให้สามารถ "คุยกันรู้เรื่อง" และแลกเปลี่ยนข้อมูลเป้าหมายกันได้แบบ Real-time

ผลลัพธ์คือ กองทัพไทยสามารถนำเครื่องบินรบ F-16 ของสหรัฐฯ ปฏิบัติการร่วมกับ Gripen ของสวีเดน หรือประสานงานยิงสนับสนุนจากปืนใหญ่ของฝรั่งเศสและอิสราเอลได้อย่างแม่นยำและเป็นระบบเดียวกัน ซึ่งเป็นการดึงประสิทธิภาพสูงสุดของอาวุธแต่ละชนิดออกมาใช้ได้อย่างน่าอัศจรรย์

ศักยภาพที่แม้แต่ "อิหร่าน" ยังต้องยอมรับ

รายงานจากสื่ออิหร่านระบุชัดเจนว่า การบูรณาการข้ามระบบเช่นนี้เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและยากมาก แม้แต่กองทัพอิหร่านเองที่มีแสนยานุภาพสูง ก็ยังไม่สามารถเชื่อมโยงระบบที่แตกต่างกันขนาดนี้ได้สำเร็จ

การที่กองทัพไทยทำสิ่งนี้ได้สำเร็จ สะท้อนให้เห็นว่า ไทยไม่ใช่เพียงผู้ซื้ออาวุธ (User) เท่านั้น แต่เป็นผู้พัฒนาระบบ (Developer) ที่มีความเข้าใจในเทคโนโลยีอย่างลึกซึ้ง จนสามารถสร้าง "ระบบลิงก์" ของตัวเองที่ทำให้เขี้ยวเล็บจากนานาชาติทำงานสอดประสานกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นี่คือเครื่องพิสูจน์ว่า "มันสมองของคนไทย" ไม่แพ้ชาติใดในโลก และเป็นเบื้องหลังความแข็งแกร่งที่แท้จริงที่ทำให้ต่างชาติต้องจับตามอง

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลวงพ่อเงิน บางคลาน จอบใหญ่

เหรียญ จอบใหญ่ หลวงพ่อเงิน มีจุดตำหนิแห่งหนึ่ง ซึ่งนักเล่นจะให้สำคัญหรือเน้นการพิจารณามาก เพราะจะปรากฎพบทุกองค์นั้นจะสึกลบเลือนไปมากก็ยังเห็นอยู่ คือเส้นขอบเหรียญด้านล่างโย้ขึ้นไปจรดใต้ขาซ้ายแลดูคล้ายกับเส้นบล็อกแตกเป็นทางจากซุ้มไปจรดขา นอกจากนี้ก็ยังมีอีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งนักเล่นเก่งๆพยายามปกปิด หากสวยสมบูรณ์จะเห็น “เนื้อล้น”ที่ข้างหูด้านขวา หรือเหนือหัวไหล่ขวาเป็นสันนูนออกมาเล็กน้อยคล้าย “รอยพับ” อีกทั้งห่วงหูขวาจะปรากฏ “เม็ดไข่ปลา”และเส้นซุ้มแบบเดียวกับด้านข้างองค์พระ โดยมักจะสึกลบเลือน เนื่องเพราะเป็นจุดนูนเหรือบริเวณสัมผัส และความหนาของห่วงระดับใกล้เคียงกับ”ซุ้มข้างองค์พระ” ปัจจุบันเหรียญ “จอบใหญ่” หลวงพ่อเงิน ของแท้แน่นอนหายากมากๆ ส่วนของปลอมเลียนแบบฝีมือยังห่างไกล

เหรียญหล่อสี่เหลี่ยม รุ่นเสาร์ห้า หลวงพ่อนุ่ม

เหรียญหล่อสี่เหลี่ยม รุ่นเสาร์ห้า หลวงพ่อนุ่ม เครดิตภาพ wep-pra นับเป็นพระเครื่องวัตถุมงคลอีกประเภทหนึ่งของ หลวงพ่อนุ่ม ที่ได้รับความนิยมมากความจริงแล้วพระในรุ่นเสาร์ห้านี้ หลวงพ่อได้จัดสร้างขึ้นรวม 3 แบบด้วยกันคือ เหรียญหล่อสี่เหลี่ยม , พิมพ์พระนางพญา และ พิมพ์พระปางสมาธิ แต่ที่นิยมกันมากที่สุดมีราคาแพงที่สุด ก็ได้แก่ เหรียญหล่อสี่เหลี่ยม รองลงมาก็คือ พิมพ์นางพญา และพิมพ์สมาธิ ตามลำดับ ในส่วนของ พระเครื่อง เหรียญหล่อสี่เหลี่ยมนั้น เป็นพระขนาดประมาณ 2.3-3.2 ซ.ม. ด้านหน้าเป็นรูปพระองค์พระปางสมาธิ ฐาน 3 ชั้น อยู่ภายในกรอบสี่เหลี่ยม เหนือฐานชั้นบนมีกลีบบัวรองรับองค์พระอยู่รวม 6 กลีบ ส่วนด้านหลังเป็นยันต์ตรีนิสิงเห สำหรับพิมพ์นางพญาและพิมพ์สมาธิ องค์พระเป็นรูปสามเหลี่ยมปางมารวิชัย และปางสมาธิ ส่วนด้านหลังจะเรียบทั้ง 2 พิมพ์ ทั้ง 3 แบบพิมพ์พระเครื่องนี้ จัดสร้างขึ้นโดยการหล่อด้วยด้วยเนื้อทองเหลืองและด้วยการเป็นพระหล่อนี่เองทำให้พุทธลักษณะและเนื้อหาขององค์พระเครื่องประกอบกันเข้าแล้ว ดูสวยแปลกตาและมีเสน่ห์ไม่แพ้เหรียญหล่อหรือพระหล่อจากสำนักใดๆเลย ในด้านพุทธคุณไม่ถือเป็นรอง...

สืบสานตำนาน "ทหารผี" สู่ "พระกริ่งบางหอย" สุดยอดมหาอุด คงกระพัน โดยหลวงพ่อจาด

เปิดกรุ "พระกริ่งบางหอย" มรดกหลวงพ่อจาด ที่นักสะสมต้องมี ราคาจับต้องได้ เครดิตภาพ: web pra พระกริ่ง บางหอย หลวงพ่อจาด แบ่งออกเป็น 3 พิมพ์ ด้วยกัน คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก พุทธลักษณะพระกริ่ง บางหอย หลวงพ่อจาด พุทธลักษณะคล้ายพระกริ่ง 79 สมเด็จพระสังฆราชแพ โดยเฉพาะ พิมพ์ใหญ่ ด้านหลังมีตัว อุ อยู่ตรงกลางฐาน หล่อด้วยเนื้อทองผสม บางองค์เนื้อจัดมาก ผิวแบบเนื้อสัมฤทธิ์ก็มี  บางองค์แก่ทองเหลือง บางองค์แก่ทองแดง ในพิธีการเททองหล่อพระกริ่ง บางหอย นี้ ได้จัดสร้าง พระรูปหล่อลอยองค์ หลวงพ่อจาด ด้วย แต่น้อยมาก  นักสะสมพระเครื่องส่วนใหญ่ไม่รู้จักยกเว้นคนพื้นที่ พระรูปหล่อลอยองค์มี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ฐานตอกชื่อ สวัสดิ์ ผ่องสกุล (สันนิษฐานว่าเป็นชื่อผู้สร้าง) , พิมพ์ฐานจาร(แต่บางคนองค์ไม่มี)พระกริ่ง บางหอย พิจารณาเล่นหาได้ง่าย และมีจำนวนพระเครื่องที่หมุนเวียนเปลี่ยนมือในวงการก็มีมากพอเพียง และที่สำคัญราคาเช่าหายังพอสู้กันไหว พระกริ่ง บางหอย พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก ส่วนใหญ่ที่พบมักจะหล่องดงามมาแต่เดิม จึงไม่จำเป็นต้องแต่ง แต่ก็มีบ้างที่แต่งเซาะเนื้อรายละเอียดบางแห่ง...