Modern Classic 2025: Yamaha Grand Filano พุ่งนิวไฮ ส่วน Vespa ยอมหั่นราคา เกิดอะไรขึ้นกับตลาดสองล้อ?
ในปี 2568 ตลาดรถมอเตอร์ไซค์เมืองไทยในกลุ่ม "Modern Classic" กำลังฉายภาพยนตร์สองเรื่องที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในขณะที่แบรนด์หนึ่งกำลังเฉลิมฉลองสถิติยอดขายสูงสุดใหม่ อีกแบรนด์ระดับตำนานกลับต้องเผชิญศึกหนักจนต้องงัดกลยุทธ์ "หั่นราคา" ออกมาสู้
วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกสถานการณ์ที่น่าจับตามอง ระหว่าง Yamaha Grand Filano Hybrid และ Vespa ว่าเกิดอะไรขึ้นในสมรภูมิสองล้อปีนี้
Yamaha Grand Filano Hybrid: พระเอกตัวจริงที่ "ยิ่งขาย ยิ่งโต"
หากจะหา "ผู้ชนะ" ในปีนี้ คงหนีไม่พ้น Yamaha Grand Filano Hybrid ที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นรถยอดนิยมของคนไทยอย่างแท้จริง แม้เศรษฐกิจจะผันผวน แต่กราฟยอดขายของรุ่นนี้กลับพุ่งทะยานขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
สถิติใหม่ที่น่าทึ่ง: เพียงแค่ 9 เดือนแรกของปี 2568 ยามาฮ่ากวาดเลดขายไปได้กว่า 92,191 คัน เติบโตขึ้นถึง 14.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน
คาดการณ์จบปี: นักวิเคราะห์มองว่า Grand Filano จะจบปีนี้ด้วยตัวเลขสวยหรูที่ระดับ 123,000 คัน ซึ่งจะเป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่ (New High) ของรุ่นนี้
ทำไมถึงขายดี?: ด้วยดีไซน์ที่ตอบโจทย์ ราคาที่เข้าถึงง่าย (เริ่มต้น 64,700 บาท) และความเชื่อมั่นในแบรนด์ ทำให้ Grand Filano กลายเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคที่มองหารถใช้งานที่มีสไตล์
Vespa: ตำนานที่ต้องปรับตัว ในวันที่กำลังซื้อหดหาย
ในทางตรงกันข้าม แบรนด์พรีเมียมสกู๊ตเตอร์อย่าง Vespa กำลังเผชิญกับพายุลูกใหญ่ ตัวเลขยอดขาย 9 เดือนแรกหล่นวูบเหลือเพียง 18,000 คัน (ติดลบ 17%)
สถานการณ์ที่บีบคั้นทำให้ Vespa ต้องตัดสินใจเดินเกมแรงด้วยการ "ปรับลดราคาแบบยกแผง" เพื่อกระตุ้นตลาด ซึ่งถือเป็นโอกาสทองของผู้บริโภคที่รอคอยรถแบรนด์นี้:
LX125 i-Get: ลดเหลือ 79,900 บาท (ประหยัดไปถึง 17,000 บาท)
Sprint 125: ลดเหลือ 106,900 บาท
รวมถึงรุ่น 150cc อีกหลายรุ่นที่ปรับราคาลงหลักหมื่นบาท
บทสรุป: สะท้อนภาพเศรษฐกิจและไฟแนนซ์
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า "ความนิยมในรถทรง Modern Classic ไม่ได้ลดลง" (พิสูจน์จากยอดขาย Yamaha ที่พุ่งสูง) แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ "กำลังซื้อ"
สาเหตุหลักที่ฉุดยอดขาย Vespa ลง ไม่ใช่เพราะตัวรถไม่ดี แต่เป็นเพราะ:
ภาวะเศรษฐกิจซบเซา: ผู้คนระมัดระวังการใช้จ่ายกับสินค้าราคาสูง
ไฟแนนซ์เข้มงวด: การปล่อยสินเชื่อสำหรับรถราคาระดับพรีเมียมทำได้ยากขึ้น มีการตรวจเช็คเครดิตบูโรที่ละเอียดขึ้น ทำให้ลูกค้าจำนวนมาก "กู้ไม่ผ่าน"
ปี 2568 จึงเป็นปีที่ตลาดแบ่งขั้วชัดเจน: ฝั่งรถตลาด (Mass Market) ยังไปได้สวยและเติบโต แต่ฝั่งรถพรีเมียม (Niche Market) ต้องเหนื่อยหนักและยอมเฉือนเนื้อตัวเองเพื่อรักษาพื้นที่ในตลาดเอาไว้
