พระเครื่องผงเก่า ใหม่หรือเก๊-แท้ - พระเครื่อง:พระเครื่องพลาซ่า ร้านพระเครื่อง ศูนย์เช่าพระเครื่อง วัตถุมงคล
ในบรรดาวัสดุมวลสารที่ได้นำมาสร้างทำเป็นพระเครื่องก็มีหลายสิ่งหลายอย่างด้วยกัน เช่น ดิน ผง โลหะ ไม้ หิน หยก เป็นต้น วัสดุเหล่านี้เมื่อได้มีการนำมาสร้างทำเป็นพระเครื่องแล้วเมื่อได้ผ่านอายุการสร้างไปเป็นเวลานานหลายๆปีแล้ว แต่ละชนิดก็จะแสดงความเก่าออกมาไม่เหมือนกันดินเมื่อเก่าก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง เนื้อโลหะเมื่อเก่าก็จะไปอีกแบบหนึ่ง เนื้อผงก็จะไปอีกอย่างหนึ่ง สำหรับหลักการพิจารณาความเก่าใหม่ของเนื้อผงเก่าเป็นอย่างไร รวมทั้งการพิจารณษความเก๊หรือแท้ของพระเครื่องเนื้อผงด้วย
สำหรับการสร้างพระเครื่องเนื้อผงก่อนนั้นมีความเชื่อกันมาว่ามีการเริ่มสร้างกันในสมัยรัตนโกสินทร์ แต่พอมาระยะหลังรู้สึกว่าพระเครื่องเนื้อผงน่าจะมีการริเริ่มสร้างกันมาก่อนหน้านี้ทั้งนี้ก็เพราะมีพระเครื่องเนื้อผงหลายพิมพ์ซึ่งได้มีการค้นพบว่ามีอายุคลอดจนระยะเวลาการสร้างเกินกว่าสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เพียงแต่ว่าในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ได้มีการนิยมสร้างพระเครื่องเนื้อผงกันมาก
พระเครื่องเนื้อผงที่ได้สร้างขึ้นมาส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยผงหลัง 5 ประการ อันได้แก่ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช และผงพุทธคุณ ซึ่งผงวิเศษ 5 ประการนี้ก็ได้มาจากการนำเอาผงดินสอพองมาป่นให้ละเอียดแล้วปั๊มให้เป็นแท่งดินสอใช้สำหรับเขียนอักขระเลขยันต์ลงบนกระดานชนวน เขาว่าต้องใช้น้ำคั้นจากใบตำลึงมาทาที่แท่งดินสอพองเพื่อกันไม่ให้ผงจากแท่งดินสอพองติดมือขณะที่เขียนพระอาจารย์ผู้สร้างผงวิเศษก็จำทำการเรียกสูตรอักขระเลขยันต์ของแต่ละตัวแล้วเขียนตัวอักขระลงบนกระดานชนวนขณะที่เขียนอักขระไปนั้นก็จะมีการกำหนดจิตเพ่งตามอย่างมีสมาธิไปด้วย คือ ตาจ้อง จิตเพ่ง ปากภาวนา มือเขียน กว่าจะเขียนเสร็จแล้วลบก็ต้องใช้ระยะเวลาเช่นกัน แม้แต่ว่าเมื่อเขียนอักขระเลขยันต์เสร็จแล้ว ขณะที่ลบผงก็ต้องภาวนาขณะที่ลบผงเป็นการเฉพาะ เมื่อลบผงเสร็จแล้วก็จะเก็บผงใส่ไว้ในภาชนะที่เตรียมไว้ และก็เริ่มเขียนใหม่ ต้องพยายามเขียนแล้วลบ ลบแล้วเขียนเป็นอย่างนี้ซ้ำซากไม่รู้จะกี่ร้อยครั้งพันครั้งกว่าจะได้ผงมาสักก้อน แล้วผงแต่ละชนิดก็มีสูตรการสร้างไม่เหมือนกันอีกด้วย ดังนั้นกว่าจะได้ผงเพียงพอในการสร้างพระเครื่องก็ต้องใช้ระยะเวลาเป็นนานปีแต่ถ้าเป็นสมัยนี้ แค่ไปซื้อปูนขาวมาจากตลาด เอาไปให้หลวงพ่อ หลวงตา หลวงปู่ปลุกเสก ก็เสร็จแล้ว แต่ว่าจะมีอานภาพความศักดิ์สิทธิ์เหมือนกสับที่พระเกจิอาจารย์ยุคเก่าสร้างหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน
มีต่ออีก 2 ตอนครับ
พระเครื่องผงเก่า ใหม่หรือเก๊-แท้
ในบรรดาวัสดุมวลสารที่ได้นำมาสร้างทำเป็นพระเครื่องก็มีหลายสิ่งหลายอย่างด้วยกัน เช่น ดิน ผง โลหะ ไม้ หิน หยก เป็นต้น วัสดุเหล่านี้เมื่อได้มีการนำมาสร้างทำเป็นพระเครื่องแล้วเมื่อได้ผ่านอายุการสร้างไปเป็นเวลานานหลายๆปีแล้ว แต่ละชนิดก็จะแสดงความเก่าออกมาไม่เหมือนกันดินเมื่อเก่าก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง เนื้อโลหะเมื่อเก่าก็จะไปอีกแบบหนึ่ง เนื้อผงก็จะไปอีกอย่างหนึ่ง สำหรับหลักการพิจารณาความเก่าใหม่ของเนื้อผงเก่าเป็นอย่างไร รวมทั้งการพิจารณษความเก๊หรือแท้ของพระเครื่องเนื้อผงด้วย
สำหรับการสร้างพระเครื่องเนื้อผงก่อนนั้นมีความเชื่อกันมาว่ามีการเริ่มสร้างกันในสมัยรัตนโกสินทร์ แต่พอมาระยะหลังรู้สึกว่าพระเครื่องเนื้อผงน่าจะมีการริเริ่มสร้างกันมาก่อนหน้านี้ทั้งนี้ก็เพราะมีพระเครื่องเนื้อผงหลายพิมพ์ซึ่งได้มีการค้นพบว่ามีอายุคลอดจนระยะเวลาการสร้างเกินกว่าสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เพียงแต่ว่าในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ได้มีการนิยมสร้างพระเครื่องเนื้อผงกันมาก
พระเครื่องเนื้อผงที่ได้สร้างขึ้นมาส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยผงหลัง 5 ประการ อันได้แก่ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช และผงพุทธคุณ ซึ่งผงวิเศษ 5 ประการนี้ก็ได้มาจากการนำเอาผงดินสอพองมาป่นให้ละเอียดแล้วปั๊มให้เป็นแท่งดินสอใช้สำหรับเขียนอักขระเลขยันต์ลงบนกระดานชนวน เขาว่าต้องใช้น้ำคั้นจากใบตำลึงมาทาที่แท่งดินสอพองเพื่อกันไม่ให้ผงจากแท่งดินสอพองติดมือขณะที่เขียนพระอาจารย์ผู้สร้างผงวิเศษก็จำทำการเรียกสูตรอักขระเลขยันต์ของแต่ละตัวแล้วเขียนตัวอักขระลงบนกระดานชนวนขณะที่เขียนอักขระไปนั้นก็จะมีการกำหนดจิตเพ่งตามอย่างมีสมาธิไปด้วย คือ ตาจ้อง จิตเพ่ง ปากภาวนา มือเขียน กว่าจะเขียนเสร็จแล้วลบก็ต้องใช้ระยะเวลาเช่นกัน แม้แต่ว่าเมื่อเขียนอักขระเลขยันต์เสร็จแล้ว ขณะที่ลบผงก็ต้องภาวนาขณะที่ลบผงเป็นการเฉพาะ เมื่อลบผงเสร็จแล้วก็จะเก็บผงใส่ไว้ในภาชนะที่เตรียมไว้ และก็เริ่มเขียนใหม่ ต้องพยายามเขียนแล้วลบ ลบแล้วเขียนเป็นอย่างนี้ซ้ำซากไม่รู้จะกี่ร้อยครั้งพันครั้งกว่าจะได้ผงมาสักก้อน แล้วผงแต่ละชนิดก็มีสูตรการสร้างไม่เหมือนกันอีกด้วย ดังนั้นกว่าจะได้ผงเพียงพอในการสร้างพระเครื่องก็ต้องใช้ระยะเวลาเป็นนานปีแต่ถ้าเป็นสมัยนี้ แค่ไปซื้อปูนขาวมาจากตลาด เอาไปให้หลวงพ่อ หลวงตา หลวงปู่ปลุกเสก ก็เสร็จแล้ว แต่ว่าจะมีอานภาพความศักดิ์สิทธิ์เหมือนกสับที่พระเกจิอาจารย์ยุคเก่าสร้างหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน
มีต่ออีก 2 ตอนครับ