ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2011

พระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์ทรงเจดีย์

พระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์ทรงเจดีย์ สำหรับการสร้างพระพิมพ์สมเด็จนั้น ท่านเจ้าคุณ พระเทพญาณเวที วัดระฆังฯ  ได้เล่าถึงการสร้าง พระเครื่อง ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ซึ่งท่านเคยได้ฟังมาจากท่านเจ้าคุณพระธรรมถาวร (ช่วง) ซึ่งเป็นพระฐานานุกรมของเจ้าประคุณสมเด็จฯ อีกทอดหนึ่งว่า การสร้างพระเครื่องสมเด็จของท่านนั้น ท่านจะใช้ปูนขาวเป็นหลัก ผสมด้วยเกสรดอกบัว ขี้ไคลใบเสมา น้ำอ้อยเปลือกกล้วยน้ำละว้า น้ำมันตั้งอิ้ว ขี้ธูปในพระอุโบสถ ปูนและดินกรุตามพระเจดีย์เก่าและผงวิเศษ ๕ ประการ ซึ่งผงวิเศษดังกล่าวเกิดจากการเขียนและลบอักขระเลขยันต์จำนวนมากมี ความพิสดาร แต่ละผงจะมีอานุภาพแตกต่างกันไป ผงปถมังนี้ท่านว่ามีอานุภาพทางคงกระพัน ป้องกันศาสตราวุธทั้งปวง ทั้งเขี้ยวงู และยังเป็นมหาอำนาจอีกด้วย ผงอิธเจมีอิทธิคุณทางเสนีห์เมตตาคนโบราณใช้ผงนี้ให้กินจะทำให้เขารักจนตายทีเดียว แต่หากไม่เลี้ยงดูเขาจะเป็นบาปกรรม ครูบาอาจารย์ ท่านมักแช่งเอาไว้ ผงตรีนิสิงเหเป็นการลบอัตราเลขโบราณ มีอานุภาพทางป้องกันคุณไสย พระสมเด็จ บางขุนพรหม พิมพ์ทรงเจดีย์นั้นที่เรียกขานกันเช่นนี้ เพราะเมื่อลากเส้นจากพระเกศลงยังฐานชั้นล่างทั้งสองด้านขององค์ พ

พระผงบุเรงนองออกศึก

พระผงบุเรงนองออกศึก หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม พระเครื่อง พระผงบุเรงนองออกศึก เป็นพระเครื่องศิลปะแบบพุกามของพม่า เดิมทีนั้นมีลูกศิษย์ซึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยงไปพบพระ พระเครื่อง พิมพ์นี้จากถ้ำในเขตประเทศพม่า ซึ่งเป็นพระเครื่องที่พระสงฆ์ชาวรามัญ สร้างเพื่อสืออายุพระศาสนาเอาไว้นานเป็นร้อยๆปีแล้ว เมื่อแรกนั้นเองพระมาให้ท่านดูเพียงไม่กี่องค์ ครั้นหลวงพ่ออุตตมะดูแล้วเป็นพระเก่าได้อายุจึงบอกให้กลับไปเอามาอีก ลูกศิษย์คนนั้นจึงชวนเพื่อนๆกลับไปขนพระเครื่องจากในถ้ำมาจนหมด โดยเอาพระใส่ปี๊บได้หลายปี๊บแล้วหาบกันมา เนื่องจากหนทางที่มาเป็นป่าและขุนเขา จึงทำให้พระเครื่องที่นำมาแตกหักเสียหายไปเสียมากกว่าครึ่ง หลวงพ่ออุตตมะจึงคัดเอามาแต่องค์ที่สมบูรณ์มาปลุกเสกแล้วแจกลูกศิษย์และชาวบ้าน ส่วนที่แตกหักชำรุดก็ให้ป่นจนละเอียดแล้วนำมาสร้างขึ้นใหม่ โดยพระบุเรงนองออกศึกในส่วนที่สร้าขึ้นใหม่นี้หลวงพ่ออุตตมะได้สร้างขึ้นประมาณ 3-4 รุ่นด้วยกัน และแกะพิมพ์เลียนแบบของเก่าขึ้น สำหรับพระเครื่อง พระผงบุเรงนองออกศึก รุ่นแรกที่นำมาจากถ้ำในเขตประเทศพม่า ขนาดขององค์พระจะใหญ่กว่ารุ่นหลังๆๆๆรายละเอียดตึ้นๆเนื้อจะมีลักษณะ

พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเขียน ปี 16

พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเขียน ปี 16 จังหวัดพิจิตร มีพระเกจิอาจารย์เก่งๆ หลายองค์ อาทิเช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงพ่อเขียน วัดสำนักขุนเณร หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง หลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ แต่ที่คุ้นหูกันมากคงจะไม่พ้น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน และ หลวงพ่อเขียน วัดสำนักขุนเณร เพราะท่านทั้งสอง เป็นพระเถระ อายุยืนมากคื่อ หลวงพ่อเงิน อายุ 107 ปี หลวงพ่อเขียนอายุ 108 ปี อีกทั้งยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งกล้ามีพระเวทย์ลึกล้ำอีดด้วย เมื่อปี พ.ศ.2516 ทาง วัดสุขุมมาราม วัดที่หลวงพ่อเขียนสร้างไว้ ได้จัดสร้าง พระเครื่อง วัตถุมงคล เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ขึ้น จึงจัดพิธีพุทธาภิเษก ครั้งใหญ่ ยิ่ง มีการอัญเชิญ ไฟพระราชทาน จาก สมเด็จพระสังฆราชมายังพิธีโดยทางรถไฟ พระเครื่องวัตถุมงคลในพิธีดังกล่าวจัดสร้างพระผงจำนวน 2 พิมพ์ คือ พระพิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์และพระรูปเหมือนหลวงพ่อเขียน สามเหลี่ยม นอกนั้นเป็นเหรียญรูปหล่อ และพระบูชา พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเขียน สามเหลี่ยม ปี 16 มีส่วนผสมผงเก่ามากมาย อาทิเช่น ผงหลวงพ่อเขียน,แป้งที่หลวงพ่อเขียนปลุกเสก,ผงหลวพ่อพิธ,ผลหลวงพ่อเงิน

พระซุ้มกอ เนื้อชิน จ.กำแพงเพชร

พระซุ้มกอ เนื้อชิน นี้ มีพุทธคุณเป็นเลิศปรากฏแก่ผู้สักการะทั้งด้านเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี รวมถึงโภคทรัพย์ทางการค้าขาย เช่นเดียวกับพระกำแพงซุ้มกอทีเดียว แต่สนนราคานั้นแตกต่างกันมาก ดังนั้น ถ้ามีโอกาสพบเห็นพระแท้ ก็น่าตัดสินใจเช่าหาไว้สักหน่อยครับผม "ของดีที่คุ้มแสนคุ้ม" แล้วทราบหรือไม่ว่า "พระซุ้มกอ" นี้ ไม่ได้มีเพียงพระเนื้อดินอันสูงค่าเท่านั้น ยังมีการขุดค้นพบ "พระซุ้มกอ เนื้อชิน" จากกรุเดียวกับพระซุ้มกอ เนื้อดินด้วย โดยเฉพาะบริเวณเมืองนครชุมหรือลานทุ่งเศรษฐี แต่จำนวนที่พบนั้นน้อยกว่ามาก จึงไม่เป็นที่แพร่หลาย และชื่อเสียงจึงไม่ค่อยมีผู้รู้จักนัก แต่ท่านเชื่อไหมว่าพุทธคุณนั้นล้ำเลิศเช่นเดียวกับ "พระกำแพงซุ้มกอ เนื้อดิน" ทีเดียวครับผม พระซุ้มกอ เนื้อชิน ที่ขุดค้นพบ มี 3 เนื้อ คือ เนื้อชินเงิน เนื้อชินเขียว และเนื้อตะกั่วสนิมแดง องค์พระมีพุทธลักษณะและขนาดเป็นมาตรฐานเดียวกับพระกำแพงซุ้มกอ เนื้อดิน และเป็นพระที่สร้างในสมัยสุโขทัยโดยฝีมือช่างเมืองกำแพงเพชร ตามศิลปะสมัยเชียงแสนเช่นเดียวกัน มีความเก่าแก่ราวๆ 600 ปี พุทธลักษณะองค์พระประทับนั่ง

หลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน

อัตโนประวัติ ท่านเป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร แห่งวัดป่าอุดมสมพร ต.พรรณา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เมื่ออายุ 12 ปีได้เข้าพิธีบรรพชา ณ วัดแจ้ง บ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่านเอง ท่านได้ปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้ครูบาอาจารย์นานถึง 12 ปี ตั้งแต่ครั้งสมัยเป็นสามเณร เช่น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ซึ่งเป็นหลวงอาได้นำท่านมาอยู่ด้วย และโดยเฉพาะกับพระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ศิษย์สายธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ในช่วงที่เป็นสามเณรอยู่กับพระอาจารย์อ่อนเคยไปกราบนมัสการหลวงปู่มั่น ณ วัดป่าบ้านหนองผือ (วัดป่าภูริทัตตถิราวาส) บ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เป็นประจำ โดยมีพระอาจารย์อ่อนนำพาไป สาเหตุที่ได้ปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้พระอาจารย์อ่อน ด้วยพระอาจารย์อ่อนเดินธุดงค์มาพำนักหาความสงบวิเวกอยู่ที่บริเวณป่าช้าบ้านหนองโดก (ปัจจุบันคือวัดป่าโสตถิผล หรือวัดป่าบ้านหนองโดก) ตอนนั้นได้บรรพชาเป็นสามเณร แต่เป็นฝ่ายมหานิกาย พักอยู่วัดแจ้ง บ้านหนองโดก เป็นวัดบ้านของท่านเอง และไม่ไกลจากป่าช้าที่พระอาจารย์อ่อนไปพักอยู่นั้นมากนัก ท่านบอกว่า ตอนที่ไปกราบนมัสการพระอาจารย์มั่น ณ วัดป่าบ้านห

หลวงปู่สี ฉันทสิริ เหรียญอายุยืน

เหรียญอายุยืนหลวงปู่สี (เต็มองค์) ถือเป็นเหรียญพระใหม่ที่ได้รับความนิยมจากเซียนพระเมืองปากน้ำโพเป็นอย่างยิ่ง เหรียญรุ่นนี้นับเป็นเหรียญรุ่น 2 ของหลวงปู่สี สร้างเมื่อ พ.ศ.2517 โดยนายแพทย์วิเชียร ตระกูลสิน และจ.อ.นริศ ไชยมงคล เป็นผู้ดำเนินการสร้าง มีทั้งสิ้น 4 เนื้อด้วยกัน คือ เนื้อทองคำ 16 เหรียญ, เนื้อเงิน 125 เหรียญ, เนื้อนวะ 1,125 เหรียญ และเนื้อทองแดง 8,860 เหรียญ เหรียญรุ่นดังกล่าวมีการตอกโค้ดตัว "ส" ไว้ด้านหลังเหรียญทุกเหรียญ และเหรียญทองคำ เงิน นวโลหะ จะมีหมายเลขกำกับไว้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีชุดกรรมการ (เนื้อเงิน นวโลหะ และทองแดง) มีการตอกโค้ด "ก" และ "ก.ส" แต่มีจำนวนน้อย แบ่งออกเป็น 2 บล็อก คือ เนื้อทองคำ-นวโลหะ บล็อกเดียว กัน เนื้อเงิน-ทองแดง บล็อกเดียวกัน โดยมีช่างเกษม มงคลเจริญ เป็นผู้แกะบล็อก ลักษณะเหรียญเป็นรูปไข่ มีขอบและหูห่วงในตัว ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปหลวงปู่สีนั่งสมาธิเต็มองค์ มียันต์ที่สังฆาฏิ ด้านล่างมีตัวหนังสือเขียนว่า "อายุยืน" ส่วนด้านหลังเหรียญ ตรงกลางเป็นยันต์ใบพัด กำกับด้วยอักขระขอม "มะ อะ อุ" ใต้ยันต์มีอักขระขอมก

เสมา 6 รอบ หลวงพ่อสาคร

พระพิมพ์วงเขน กรุวัดนาสนธิ์

พระพิมพ์วงเขน กรุวัดนาสนธิ์ วัดนาสนธิ์ นับเป็นวัดเก่าแก่และสำคัญควบคู่กับวัดท่าเรือ ได้รับการสถาปนามาจากพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เมื่อครั้งสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ทรงศรีวิชัยยุคแรก หรือเมื่อคราวสร้างเมืองพระเวียงเป็นเมืองหลวงที่สองของอาณาจักรตามพรลิงค์บนหาดทรายแก้วในระหว่าง พ.ศ. 1089-1300 วัดนาสนธิ์อยู่ติดกับวัดเตาปูน ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งเตาเผาเปลือกหอยเพื่อทำปูนขาวผสมยางไม้และข้าวเหนียวสำหรับก่อ สร้างพระธาตุเจดีย์ สันนิษฐานว่า พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชคงเสด็จมาตรวจเตาปูน และทรงเห็นว่าเป็นสถานที่ที่สงบวิเวกเหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรภาวนาของพระสงฆ์ฝ่ายอรัญวาสี ครั้นเมื่อสร้างพระธาตุเจดีย์แล้วเสร็จ จึงได้สถาปนาที่ตั้งเตาปูนเป็น "วัดเตาปูน" และที่ประทับชั่วคราวเมื่อเสด็จมาตรวจดูเตาปูนเป็น "วัดนาสนธิ์" จากนั้นโปรดฯ ให้สร้างพระพิมพ์บรรจุกรุไว้เพื่อสืบทอดอายุพระศาสนาที่วัดนาสนธิ์ด้วย สมัยเมื่อ 20-30 ปีมาแล้ว "พระไตรภาคี" นับเป็นพระเครื่องยอดนิยมและมีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรม ราช มีด้วยกัน 3 พิมพ์ คือ พระพิมพ์ปรกโพธิ์ใหญ่นิยม กรุวัดท่าเรือ (วัดท่าโพธิ์) พระพิ

เหรียญหลวงพ่ออุปัชฌาย์ก๋ง

เหรียญหลวงพ่ออุปัชฌาย์ก๋ง พระอุปัชฌาย์ก๋ง หรือที่รู้จักกันในนาม "หลวงปู่ก๋ง" เกิดที่ ต.เขาสมอคอน จ.ลพบุรี เมื่อวันจันทร์ เดือนอ้าย ปีระกา ในสมัยรัชกาลที่ 3 ตอนเด็กร่ำเรียนหนังสือไทยและขอมที่วัดเขาสมอคอน จนอายุครบอุปสมบทจึงเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ณ วัดเขาสมอคอน โดยมีพระอุปัชฌาย์จีนเป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อทับเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อชื่นเป็นพระอนุศาสนาจารย์ ได้รับฉายา "จันทสโร" ศึกษาพระปริยัติธรรมและวิทยาคมต่างๆ จากพระอุปัชฌาย์จีน และด้วยความที่ท่านเป็นผู้ใฝ่ศึกษาหาความรู้จึงเดินทางไปศึกษาพระธรรมและวิทยาการต่างๆ จากพระเกจิอาจารย์หลายท่าน ถ้าหลวงปู่ก๋งเห็นว่าดีก็จะฝากตัวเป็นลูกศิษย์ทันที ทั้งวัดในท้องถิ่น อาทิ วัดแถมท้องคุ้ง วัดบ้านไร่ วัดมุจรินทร์ วัดบางลี่ ฯลฯ พระเครื่อง เหรียญหลวงพ่ออุปัชฌาย์ก๋ง เป็นเหรียญเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีของชาวเมืองลพบุรีและจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องและเหรียญคณาจารย์ เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมสะสมและแสวงหามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในตัวผู้สร้าง คือ พระอุปัชฌาย์ก๋ง จันทสโ

เหรียญพระพุทธสิหิงค์ วัดราชประดิษฐ์ กรุงเทพฯ

เหรียญพระพุทธสิหิงค์ วัดราชประดิษฐ์ กรุงเทพฯ พระเครื่อง เหรียญปั๊มพระพุทธสิหิงค์ รุ่นฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 150 ปี วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม นี้ แม้เป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมสูง แต่จำนวนการจัดสร้างไม่มากนัก พบเห็นได้ยากในวงการนักสะสมพระเครื่องปัจจุบัน และสนนราคาค่อนข้างสูง เพราะผู้มีไว้สักการะต่างหวงแหนไม่ค่อยมีการเปลี่ยนมือ กล่าวสำหรับ พระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองอีกองค์หนึ่งของประเทศไทย มีทั้งหมด 3 องค์ คือ ประดิษฐานที่จังหวัดนครศรีธรรมราช กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ พระพุทธสิหิงค์ เป็นพระพุทธรูปโบราณศิลปะแบบลังกา พระเจ้าสีหฬะพระมหากษัตริย์แห่งลังกาทวีป ได้ทรงสร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ.700 ได้เข้ามาสู่สยามในสมัยพ่อขุนรามคำแหง ตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัย เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีพุทธลักษณะงดงาม และเป็นที่นับถือศรัทธาของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไปว่า เป็นพระพุทธรูปที่ให้ความร่มเย็น ความอุดมสมบูรณ์ จึงมักถูกอัญเชิญอาราธนามาสรงน้ำกันในวันขึ้นปีใหม่และวันสงกรานต์เป็นประจำทุกปี สำหรับวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรวิหาร สร้างโดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัช

เหรียญ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ

หลวงพ่อสาคร เป็นทั้งพระนักปฏิบัติธรรมและเป็นพระนักพัฒนาสร้างความเจริญให้กับวัดหนองกรับเป็นอย่างมาก เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีความรอบรู้ในวิทยาคม หลวงพ่อสาคร เกิดในสกุล ไพสาลี เมื่อวันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ 2481 เกิดที่บ้านท้ายทุ่ง เลขที่ 6 ม.2 ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดหนองกรับ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2501 โดยมีพระครูจันทโรทัย (หลวงพ่อดิ่ง) วัดบ้านค่าย เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า มนุญโญ มีความหมายว่า ผู้มีความไพบูลย์ พ.ศ.2503 หลวงพ่อสาคร ได้เริ่มจัดสร้างเหรียญและวัตถุมงคล เพื่อบูรณปฏิสังขรณ์วัดหนองกรับ ในการนี้วัตถุมงคลเหรียญรูปเหมือนของท่านหลายรุ่น ได้รับความนิยมอย่างสูง จวบจนปัจจุบัน ยังเป็นที่ต้องการของบรรดาคณะศิษยานุศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธา ล่าสุด คณะกรรมการวัดหนองกรับ ได้จัดสร้างเหรียญวัตถุมงคล หลวงพ่อสาคร พร้อมพิมพ์หนังสือชีวประวัติ "หลวงพ่อในใจเรา" เมื่อปี พ.ศ.2552 ในโอกาสครบรอบคล้ายวันเกิด ครบรอบ 71 ปี หลวงพ่อสาคร มนุญโญ ซึ่งตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 เหรียญดังกล่าว มีลักษณะเป็นเหรียญรูป

พระกริ่งรุ่นน้ำท่วม วัดสุทัศน์

พระกริ่งท่านเจ้าคุณศรี (สนธิ์)วัดสุทัศน์ รุ่นน้ำท่วม ปี 85 เป็นพระกริ่งอีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งได้รับความนิยมเล่นหาอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ด้วยเป็นเพราะจำนวนมากกว่ารุ่นอื่นๆอีกทั้งรูปแบบและเนื้อหาก็สวยงาม ในปี พ.ศ. 2485 กรุงเทพฯ เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ ถนนหนทางเจิ่งนองไปด้วยน้ำที่หลากมาจากทางภาคเหนือและน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่เอ่อล้นขึ้นมาสมทบน้ำจึงท่วมกรุงและประจวบเหมาะกับการสร้างพระกริ่งครั้งนั้นเป็นช่วงน้ำท่วม นักเลงพระจึงขนานนามว่า “รุ่นน้ำท่วม” ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พระเครื่อง พระกริ่งรุ่นน้ำท่วม ท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์)เททองหล่อพระที่หน้าพระอุโบสถ วัดสุทัศน์ ซึ่งแบ่งออกเป็นสองฤกษ์ คือ ฤกษ์ช่วงเช้า และฤกษ์ช่วงบ่าย ในวันเดียวกันและใช้โลหะส่วนผสมต้างเบ้า หรือคนละเบ้า ฤกษ์ช่วงเช้าหล่อพระได้ 500 องค์ และฤกษ์ช่วงบ่ายหล่อพระได้ 800 องค์ สำหรับเนื้อหาพระกริ่งที่หล่อในฤกษ์ช่วงเช้านั้น เนื้อพระมีสีมันเทศ ผิวสีจำปา บางองค์ผิวสีน้ำตาลก็มี ส่วนที่เทหล่อในฤกษ์ช่วงบ่าย มีส่วนผสมของทองแดงเจือจางลงไป เนื้อจึงออกเหลืองอมเขียว ใต้ฐานมักจะเรียบ แต่มีลงอักขระเหล็กจารไว้ และที่สำคัญทุกองค์จะตอกโค๊ด “กลมรีเท่าเม็ดง

พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ รุ่นหลังเตารีด

พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ รุ่นหลังเตารีด ในปี พ.ศ.2505 ทางวัดช้างให้ปัตตานี ได้ประกอบพิธีใหญ่โตครั้งสำคัญ สร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อทวดขึ้นหลายอย่าง ซึ่งมีพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเฉลิมพลทิฆัมพร เป็นผู้อุปถัมภ์ตลอดรายการประกอบพิธีปลุกเสก วันที่ 19 พ.ค. 2505 มีวัตถุมงคลหลายอย่างเข้าร่วมพิธี ดังนี้ 1.รูปหล่อหลวงพ่อทวดชนิด บูชา 2.พระหลวงพ่อทวดเนื้อโลหะผสม(หลังเตารีด)มี 3 ขนาด คือ พิมพ์ใหญ่,พิมพ์กลาง,พิมพ์เล็ก 3.พระหลวงพ่อทวด เนื้อเมฆพัตร(หลังเตารีด) มีพิมพ์ใหญ่ขนาดเดียว 4.พระหลวงพ่อทวด เนื้อทองเหลือง ปั๊มรมดำ ด้านหลังมีตัวหนังสือ มี 2 ขนาด คือ ขนาดใหญ่กับเล็ก 5.รูปหล่อหลวงพ่อทวด เนื้อโลหะผสม มีเลขใต้ฐาน มีขนาดเดียว สร้างไว้ จำนวน 999 องค์ 6.เหรียญรูปทรงน้ำเต้า เนื้อทองแดงรมดำ ด้านหลังมีตัวหนังสือขอม มี ขนาดเดียว แต่แยกเป็น 2 บล็อก 7.แหวนหลวงพ่อทวด เนื้อทองเหลืองขาว บางคนเรียกเนื้ออัลปาก้า 8.พระหลวงพ่อทวด เนื้อว่านรุ่นพิเศษ จำนวนประมาณ 2,000 องค์ เตรียมไว้สำหรับบรรจุในเจดีย์ใหญ่ ต่อมากลายเป็น “รุ่นพินัยกรรรม” ประวัติการสร้าง พระหลวงพ่อทวด เนื้อโลหะ เมื่อ 50 กว่าปีที่ผ่านมา บรรดาช่างฝีมือดี ที

พระผงสมเด็จโต วัดระฆัง รุ่นอินโดจีน ปี 85

พระผงสมเด็จโต วัดระฆัง รุ่นอินโดจีน ปี 85 วัดระฆังโฆสิตาราม เป็นแหล่งกำเนิด “พระสมเด็จ” ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมเล่นหากันองค์ละหลายๆล้านบาท และหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ผู้สร้าง “พระสมเด็จ” เป็นองค์ปฐมแห่ง สำนักวัดระฆัง ก็คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เจ้าตำรับผงวิเศษ 5 ประการ และพระคาถาชินบัญชร สำหรับ หลวงปู่นาค หรือพระเทพสิทธินายก เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม องค์ที่ 9 ท่านก็จัดสร้าง พระผงสมเด็จ ตามตำรับของ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต เช่นกัน และได้จัดสร้างพระครั้งแรกเมื่อครั้งสงครามอินโดจีน เมื่อปี 2485 เพื่อแจกแก่บรรดาเหล่า ทหารหาญ และประชาชนทั่วไป นำไปสักการบูชาติดตัวหวังพึ่งพุทธคุณ โดยสร้างเป็นพระผงรูปเหมือนสมเด็จโตซึ่งท่านได้นำ ผงอิทธิเจ และ ผงศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นมรดกตกทอดกันมาของสำนัก วัดระฆังโดยตรง นำมาบดจนละเอียด ผสมกับผงของท่าน ซึ่งใช้เวลาเขียนสูตร แล้วลบเป็นผงนานหลายปี พร้อมกับดอกไม้บูชารูปเหมือนสมเด็จโต และดอกไม้บูชาพระประธานในโบสถ์วัดระฆัง คลุกเคล้าผสมรวมกัน แล้วหมอบหมายให้ พระอาจารย์พา วัดระฆัง เป็นผู้ดำเนินการกดพิมพ์สร้างพระทั้งหมด สำหรับแบบพิมพ์นั้น แยกออกเป็น 3 พิมพ

เหรียญสังฆาฏิใหญ่ เจ้าคุณนรฯ

เหรียญสังฆาฏิใหญ่ เจ้าคุณนรฯ พิมพ์ ต.หางยาว เนื้อทองแดง ปี 13 เหรียญสังฆฏิใหญ่ หรือเหรียญนักกล้าม เจ้าคุณ นรฯ วัดเทพศิรินทร์ พ.ศ. 2513 เป็นวัตถุมงคลพระเครื่อง “รุ่นเดียว” ที่ท่านเจ้าคุณนรฯ อธิษฐานจิตปลุกเสกกลางแจ้งข้างกุฏินานหลายชั่วโมงเป็นกรณีพิเศษ และบังเกิดอภินิหารในขณะนั้นด้วย ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าคุณนรฯ ท่านทราบวัตถุประสงค์ของการสร้าง เพื่อนำไปแจก “รั้วของชาติ” คือ ทหาร และตำรวจตระเวนชายแดน ตลอดจนส่วนหนึ่งเพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างโรงเรียนนวมราชานุสรณ์ อันเป็นการช่วยชาติ สอดรับเจตนารมณ์ของท่าน จึงสั่งให้ ท่านเจ้าคุณอุดมฯ และลูกศิษย์นำ เหรียญสังฆาฏิใหญ่ ซึ่งบรรจุในลังไม้ ขนมาที่ข้างกุฏิของท่าน เพื่อทำพิธีสวดอธิษฐานจิต ปลุกเสกกลางแจ้ง โดยใช้เวลาประจุพุทธานุภาพนานกว่า 2 ชม. เมื่อวันที่ 16 ก.ค.พ.ศ.2513 ขณะเริ่มพิธีในช่วงโพล้เพล้ก็บังเกิด “นิมิตหมาย”อันดี ฝนได้ตกพรำๆ ชุ่มช่ำไปทั่วอาณาบริเวณ ทั้งๆ ที่ท้องฟ้าไม่มีเค้าเมฆฝนแต่อย่างใด ฝนตกผ่านไปประมาณชั่วโมงจึงขาดเม็ดพร้อมกับเป็นเวลาช่วงค่ำก็เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์อีกครั้ง ยุงเป็นจำนวนมากรุมเกาะผิวกายดูดเลือดท่านเต็มไปหมด จนร่างขาวผ่องดำเ

พระเครื่อง วัดสุทัศน์ พระกริ่งพุทธนิมิต

พระกริ่พุทธนิมิต พระนามนี้สมเด็จพระสังฆราชแพ ทรงถวายพระนามให้ เนื่องจากวันหนึ่งก่อนที่จะถึงวัดทำบุญฉลองพระชนมายุประมาณ 7 วัน พระครูวินัยกรณ์โสภณหรือพระครูหนู ได้ขึ้นไปเฝ้าเสด็จ เวลาประมาณ 6 โมงเย็น สมเด็จทรงรับสั่งว่า “หนู ปีนี้ไม่หล่อพระนะ ทำบุญเลี้ยงพระธรรมดาก็แล้วกัน”พระครูหนูรับสั่งแล้วก็ทูลลากลับไป ครั้นเช้าวันรุ่งขึ้น ประมาณ 3 โมง สมเด็จได้ให้สามเณรมาตามพระครูหนูให้เข้าเฝ้า และทรงรับสั่งว่า “หนู ถ้าจะต้องหล่อพระเสียแล้ว เมื่อคืนตอนค่อนรุ่งฉันฝันไปว่า ได้ไปที่วัดร้างเก่าๆ แบบโบราณ พบพระพุทธรูปยืนองค์หนึ่ง มีสองปาง ปางที่หนึ่งยืนแบบห้ามสมุทร ปางที่สองยืนรำพึงฉันได้นมัสการพระพุทธรูปสองปางนั้นแล้วตื่นขึ้น จึงมารำลึกว่าเราเคยหล่อพระทุกปีทำไมปีนี้จึงไม่หล่อ คล้ายกับเขามาเตือนให้เราหล่อพระ หลังจากนั้น พระองค์จึงค้นดุพระในครอบน้ำมนต์สัมฤทธิ์ ที่ใส่พระกริ่งเป็นประจำ ก็พบพระยืนเนื้อชินเก่าสูง 6 ซม.เป็นศิลปสมัยลพบุรี พุทธลักษณะคล้ายกับพระพุทธรูปองค์ที่เห็นในพระสุบิน จากนั้นจึงรับสั่งให้ไปตามช่างปั้นมาปั้นพระพุทธรูปยืน สูง 1 คืบ สำหรับพระองค์ และให้หล่อพระกริ่ง 30 องค์ โดยใช้พิมพ์ของ พระกริ

เหรียญพระเครื่องยอดนิยม หลวงพ่อคง รุ่นแรก 2484

เหรียญพระเครื่องยอดนิยม หลวงพ่อคง รุ่นแรก 2484 เหรียญหลวงพ่อคง รุ่นแรก สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2484 เป็นเหรียญปั๊มรูปไข่แบบหูเชื่อม ปั๊มด้วยโลหะทองแดงผสมทองเหลืองรมดำส่วนผู้ดำเนินการจัดสร้างคือ พ.อ.พระยาศรีสุรสงคราม(เปรื่อง ดิลกโยธิน)โดยขออนุญาตอย่างเป็นทางการ เนื่องในวาระที่หลวงพ่อคงมี อายุครบ 77 ปี ในชั้นแรกหลวงพ่อคงได้ปรารภว่า “ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษจะสร้างรูปตัวเองไปแจกดูกระไรอยู่” พ.อ.พระยาศรีสุรสงครามจึงอธิบายถึงจุดประสงค์ว่า เป็นการสร้างเพื่อบูชาพระคุณหลวงพ่อ ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ ท่านจึงอนุญาต แต่ให้ระบุข้อความที่เหรียญพระเครื่องให้ชัดเจนว่า “ศิษย์สร้างบูชาพระคุณของหลวงพ่อ”และ ลาภ ผล พูน ทวี” ก่อนที่จะดำเนินการปั๊มเหรียญ พ.อ. ศรีสุรสงคราม ได้นำชนวนหล่อพระในงานพิธีครั้งสำคัญๆ มาหลอมและรีดเป็นแผ่น และขอความเมตตาจากหลวงพ่อลงอักขระยันต์แผ่นทองเหลือง แล้วส่งไปยังร้านอัมราภรณ์ตึกดินว่าจ้างปั๊มเหรียญจำนวนทั้งหมด 3 พันเหรียญในอัตราค่าจ้างปั๊มเหรียญละ 14 สตางค์ โดยกำชับให้ทางร้านนำแผ่นโลหะทองเหลืองหล่อหลอมกับทองแดงรีดเป็นแผ่นทำการปั๊ม ด้วยเหตุนี้พระเครื่องเหรียญหลวงพ่อคงรุ่นแรกจึงไม่ใช่เนื้อทองแดง

เหรียญ บารมีอิสริโก วัดแม่น้ำคู้เก่า เนื้อนวะ

เหรียญ บารมีอิสริโก วัดแม่น้ำคู้เก่า เนื้อนวะ พระเครื่องชุดกรรมการ ทำบุญกระเบื้อง ตารางเมตรละ ๑๒๐๐ บาท สร้าง ๑๙๙๙ ชุด ชุดนี้จะได้รับ เนื้อนวะ ๑ เหรียญ เนื้ออัลปก้า ๑ เหรียญ และเนื้อทองแดงห่วงตันอีก ๑ เหรียญ รวม ๓ เหรียญครับ การเปิดจองร่วมทำบุญ จะเปิดให้จองในวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๔ นี้ครับ (รับวัตถุมงคล ๑๐ เมษายน ๒๕๕๔) สั่งจองและร่วมทำบุญสร้างศาลาการเปรียญวัดแม่น้ำคู้เก่า ได้ที่ ๑. วัดแม่น้ำคู้เก่า อ.ปลวกแดง จ.ระยอง

พระเครื่อง เหรียญ หลวงปู่ทิม วัดแม่น้ำคู้เก่า เนื้อทองแดง

พระเครื่อง เหรียญ หลวงปู่ทิม วัดแม่น้ำคู้เก่า เนื้อทองแดง พระเครื่อง รุ่น บารมีอิสริโก เนื้อทองแดง ผมว่าน่าสะสมบูชามากครับ ไม่ต้องบรรยายมากชมจากภาพ ถ้าพระออกจะถ่ายรูปได้งดงามมากกว่านี้ ภาพเวัตถุมงคล หลวงปู่ทิม เนื้อทองแดงจากคุณ ไก่

จากหนังสือ อภินิหาร และ พระเครื่อง หลวงปู่ทิม อิสริโก

อภินิหาร และ พระเครื่อง.......หลวงปู่ทิม อิสริโก ในราตรีของวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2518 เวลา 23.35 น. กฎธรรมชาติอันเป็นสัจจะ คือ ชีวิต และ สังขารของสรรพสัตว์ที่อุบัติขึ้นในโลก ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเดรัจฉาน เมื่อถึงกาลสิ้นอายุขัยแล้ว ชีวิตก็จะดับสังขารก็ผุพังมลายไปนั้น ได้ทำให้ชาวพุทธทั้งหลาย ต้องสูญเสียพระเถระผู้ทรงคุณอันประเสริฐไปอีกท่านหนึ่ง นั่นคือ พระคุณเจ้าพระครูภาวนาภิรัต (หลวงปู่ทิม) เจ้าอาวาสวัดไร่วารี จังหวัดระยอง เมื่อมีอายุได้ 96 ปีบริบูรณ์ ย่าง 97 ได้ 4 เดือน ที่พระคุณเจ้าท่านนี้ เป็นพระเถระผู้ทรงคุณอันประเสริฐ นั้นก็เพราะพระคุณเจ้าท่าน เมื่อสละเพศฆราวาสมาครองสมณเพศ (ขึ้นต้นด้วยบรรพชาเป็นสามเณรก่อน เมื่ออายุครบ จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์) ท่านมีปฏิปทา เหมาะสมเป็นพระสาวกของสมเด็จพระพุทธองค์อย่างแท้จริง ขึ้นต้นด้วยยึดมั่นต่อพระธรรมวินัยของพระองค์อย่างเคร่งครัด ฉันภัตตาหารเพียงมื้อเดียว ภัตตาหารที่ฉันก็เป็นพืชผักและผลไม้ ปราศจากเนื้อสัตว์ชนิดใดทั้งสิ้น เพราะท่านไม่ต้องการเบียดเบียนทั้งมนุษย์ด้วยกัน ตลอดจนสัตว์เดรัจฉานที่เนื้อของมันเป็นอาหารของมนุษย์ โดยธรรมชาติกำหนด ซึ่งพระภิกษ

พระเครื่อง หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน รุ่นสร้างอำเภอ

พระเครื่อง หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน รุ่นสร้างอำเภอ พระเครื่อง หลวงพ่อเงิน รุ่นสร้างอำเภอ เป็นพระปั๊ม บรรจุกริ่ง จัดสร้าง มีทั้ง รูปหล่อ เหรียญจอบใหญ่ เหรียญจอบเล็ก เมื่อปี 2522 รายนามพระเกจิอาจารย์ ที่ร่วมพิธีปลุกเสก หลวงพ่อเงิน บางคลาน รุ่นสร้างอำเภอ ตะพานหิน ปี ๒๕๒๒ พิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2522 1.ลป.โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี 2.ลป. แหวน วัดดอยแม่ปั่ง 3.ลป.คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ 4.ลพ.ถิร วัดป่าเลไลย์ 5.ลพ.ทวี วัดโรงช้าง 6.ลพ.หลี วัดทุ่งโพธิ์ 7.ลพ.อุตตมะ วัดวิเวกการาม 8.ลพ.แพ วัดพิกุลทอง 9.ลพ.จวน วัดหนองสุ่ม 10.ลพ.เปรื่อง วัดบางคลาน 11.ลพ.พระเทพญาณเวที วัดมงคลทัลคล้อ 12.พระครูพิพัฒน์โชติธรรม วัดไผ่ลอบ 13.พระครูนิยุติธรรมประวิทร วัดหัวถนนใต้ 14.พระครูนิทัศน์ศาสนกิจ วัดหนองตางู 15.ลพ.ประจวบ วัดเขาวงศ์ 16.ลพ.โอน วัดโคกเดื่อ 17.ลพ.พริ้ง วัดบ้านกาย 18.ลพ.โง้น วัดเขาลวก 19.ลพ.หมอ วัดกระต่ายทอง

ตะกั่วลองพิมพ์ หลวงปู่ทิม รุ่น "บารมีอิสริโก"

ตะกั่วลองพิมพ์ หลวงปู่ทิม รุ่น "บารมีอิสริโก"วัดแม่น้ำคู้เก่า อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เว็บไซด์ที่เกี่ยวข้อง: พระพิจิตร

วัดแม่น้ำคู้เก่า อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จัดสร้างเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่ทิม รุ่น "บารมีอิสริโก"

วัดแม่น้ำคู้เก่า อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จัดสร้างเหรียญรูปเหมือน หลวงปู่ทิม รุ่น "บารมีอิสริโก" วัดแม่น้ำคู้เก่า อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จัดสร้างเหรียญรูปเหมือน หลวงปู่ทิม รุ่น "บารมีอิสริโก" พระครูอุปถัมภ์พัฒนกิจ เจ้าคณะตำบลแม่น้ำคู้ เป็นเจ้าอาวาสวัดแม่น้ำคู้ องค์ปัจจุบัน ผู้ดำเนินการจัดสร้างเหรียญหลวงปู่ทิมรุ่น "บารมี อิสริโก" เพื่อนำรายได้ทั้งหมดนำไปก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ให้แล้วเสร็จ พิธีพุทธาพิเศก วัดถุมงคล วันที่ 7 เมษายน 2554 ณ.พระอุโบสถ วัดแม่น้ำคู้เก่าครับ รายนามพระเกจิที่ได้อาราธนามาพุทธาพิเศก ในเบื้องต้น รายนามตามนี้ครับ พระราชสธินายก (หลวงพ่อสมอิง โชติกโร) วัดเนินพระระยอง พระครูสุภัททาจารคุณ (หลวงพ่อสิน) วัดละหารใหญ่ จ.ระยอง พระครูวิจิตรธรรมาภิรัต (หลวงพ่อเชย) วัดละหารไร่ จ.ระยอง พระครูโอภาสบุญวัฒน์ (หลวงพ่อแจ่ม) วัดเขาสำเภาทอง จ.ระยอง พระครูโสภิตธรรมสาร (หลวงพ่อชู) วัดทับมา จ.ระยอง พระครูมนูญธรรมวัตร (หลวงพ่อสาคร) วัดหนองกรับ จ.ระยอง หลวงพ่อจาย สกฺโก วัดกระแสคูหาสวรรค์ จ.ระยอง หลวงพ่อสมคิด นนฺทิโย วัดบึงตาต้า จ.ระยอง ................................

พระเครื่อง เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อพุ่ม

พระเครื่อง เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่นอก กรุงเทพฯ พ.ศ.2477 พระเครื่อง "เหรียญหลวงพ่อพุ่ม รุ่นที่ 1" สร้างจำนวน 1,000 เหรียญ เพื่อแจกเมื่อครั้ง หลวงพ่อพุ่มทำบุญอายุครบ 77 ปี (แซยิด) ลักษณะเป็นเหรียญเนื้อทองแดง รูปไข่ค่อนข้างกลม หูเชื่อม ขอบเหรียญด้านหน้าและหลังยกสูงเป็นสองชั้น ชั้นนอกเป็นเส้นหนา ชั้นในคล้ายเส้นลวดเล็กๆ ซ้อนอยู่ พิมพ์ด้านหน้า เป็นรูปหลวงพ่อพุ่มครึ่งองค์หน้าตรง ไม่มีอักขระอื่นใด พิมพ์ด้านหลัง เป็นรูป "ยันต์น้ำเต้าทอง" อยู่ใต้ "อุณาโลม" มีหยักรอบอุณาโลม 5 หยัก หมายถึงพระเจ้า 5 พระองค์ คือ นะ โม พุท ธา ยะ ส่วนอักขระที่อยู่ในยันต์น้ำเต้าทองตัวถัดลงมาคือ "ตัวนะ" มีลักษณะเป็นเส้นลากจากหางมาปิดตัวเองซึ่งเรียกกันว่า นะปิด นะล้อม หรือนะกัน เป็นยันต์ที่ใช้ทางมหาอุด แคล้วคลาดและป้องกันภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง ด้านล่างสุดมีอักขระ 3 ตัว คือ "มะ อะ อุ" หมายถึงพระรัตนตรัย โดยสามารถแบ่งแยกออกเป็น 2 พิมพ์ คือ พิมพ์อุชิดและพิมพ์อุห่าง หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่นอกมีกิตติศัพท์ทางพุทธาคมเป็นที่ลื่อเลื่องในด้านคงกระพันชาตรีแคล้วคลาดและ ม

พระเครื่อง เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ขาว วัดหลักสี่ กรุงเทพฯ

พระเครื่อง เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ขาว วัดหลักสี่ กรุงเทพฯ เหรียญหลวงปู่ขาว วัดหลักสี่ เป็นหนึ่งในพระเครื่องเหรียญเก่าที่เป็นเหรียญหลักยอดนิยมระดับต้นของวงการ พระเครื่อง มีความหายากมากกว่าทุกอาจารย์ในทำเนียบเหรียญเบญจภาคี วัดหลักสี่ปัจจุบันตั้งอยู่ริมถนนวิภาวดีรังสิตใกล้กับสี่แยกหลักสี่ ที่วัดแห่งนี้ในอดีตมีพระอาจารย์เริ่มเป็นเจ้าอาวาสผู้มีอาคมแก่กล้าสามารถเสกน้ำมนต์ได้ขลังจนไม่ไหลออกจากขัน ท่านได้รับอุปการะเด็กชายขาวเป็นเด็กกำพร้าจาก อ.ปากเกร็ด นนทบุรี ให้การศึกษาอบรมความรู้ต่างๆ จนอายุครบบวชก็ได้อุปสมบทที่วัดหลักสี่ พระอาจารย์ขาวเป็นพระภิกษุที่มีความพากเพียรและเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ท่านได้รับประสิทธ์ประสาทวิชาต่างๆจากพระอาจารย์เริ่มจนหมดสิ้น และได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหลักสี่ เป็นพระอุปัชณาย์สืบต่อมา กล่าวกันว่า หลวงปู่ขาวมีความขลังในวิชาอาคม มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่นับถือศรัทธาของชาวทุ่งบางเขนในยุคสมัยนั้น เหรียญหลวงปู่ขาว วัดหลักสี่ รุ่นแรก บนเหรียญระบุปี 2469 ด้านหลังเหรียญไว้ด้วยยันต์ตรีนิสิงเหอันเป็นยันต์ที่มีคุณวิเศษใช้ได้ชนิดครอบจักรวาล แต่จากสัมผัสของผู้พกพาบูชาพระเครื่อง

เหรียญพรหมวิหาร ๔ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ

คมชัดลึก : หนึ่งในบรรดาพระเกจิอาจารย์ ของภาคตะวันออกยุคปัจจุบัน ที่สร้างวัตถุมงคลจนเป็นที่ยอมรับของลูกศิษย์และนักสะสมพระเครื่องทั้งหลาย เนื่องเพราะมีประสบการณ์ในทุกๆ ด้าน ก็คือ หลวงพ่อสาคร มนุญโญ เจ้าอาวาสวัดหนองกรับ ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ผู้สืบทอดสายวิชาอาคมจาก หลวงปู่ทิม อิสริโก อดีตเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ผู้ปลุกเสกพระเครื่องหลายรุ่นที่มีการเช่าหาในวงการพระสูงถึงหลักหมื่นหลักแสนขึ้นไป หลวงพ่อสาคร (พระครูมณูญธรรมวัตร) เป็นลูกหลานชาว อ.บ้านค่าย โดยสายเลือด เกิดเมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๑ หากนับทางจันทรคติ ตรงกับวันอังคาร แรม ๙ ค่ำ เดือน ๓ ปีขาล เล่ากันว่า หลังจากที่ท่านได้ถือกำเนิด โยมพ่อได้นำเอาวันเดือนปีเกิดของท่านไปถวาย หลวงปู่ทิม เพื่อให้ท่านผูกดวงชะตา หลังจากที่หลวงปู่ทิมได้ตรวจดูดวงวันเกิดอย่างละเอียดแล้ว ท่านได้กล่าวว่า "เด็กคนนี้เขามีความพิเศษอยู่ในตัว โตขึ้นหากเขาได้บวชในพระพุทธศาสนา ก็จะเจริญก้าวหน้า มีความรุ่งเรือง เป็นที่พึ่งของศิษย์และคนทั่วไปได้" เรื่องเล่าข้างต้นนี้ คือ ประวัติบางส่วนของหลวงพ่อสาคร ที่บอกกล่าวถึงชีวิตของเด็กชายคนหนึ

พระกริ่งเทพวิทยาคม หลวงพ่อคูณ

'หลวงพ่อคูณ'ประธานเททอง นำฤกษ์'พระกริ่งเทพวิทยาคม' เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554 ณ มณฑลพิธีวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เทพเจ้าภาคอีสานได้เป็นประธานเททองหล่อ "พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ เทพวิทยาคม" ประกอบพิธีเททองนำฤกษ์ ณ มณฑลพิธีวัดบ้านไร่ อันประกอบไปด้วย ราชาแห่งฤกษ์ และเป็นเพชรฤกษ์ เป็นวันที่เหมาะสมจะสร้างวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังต่างๆ ผู้ที่จัดสร้างวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง ในวันนี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ในตัว เป็นของคงทนสิทธิ์ ไม่มีอำนาจใดๆ มาลบล้างได้ นอกจากอำนาจกฎแห่งกรรม และผู้นั้นจะมีความอุดมสมบูรณ์ พรั่งพร้อมไปด้วย ลาภผล พูนทวี มั่งมี ศรีสุข เป็นใหญ่เป็นโต ในหน้าที่การงานต่างๆ และมีชื่อเสียงโด่งดัง ตลอดจนเป็นมหาเศรษฐีตลอดกาล พิธีเททองท่ามกลางศิษยานุศิษย์มวลมหาประชาชนร่วมหมื่นคน จนแน่นวัดบ้านไร่ ยังปรากฏปาฏิหาริย์พระอาทิตย์ทรงกลด ช่วงเช้า ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ประธานบวงสรวงถวายเครื่องสังเวยกับทวยเทพ เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามโลก มนุษย์ สวรรค์ บาดาล พิธีเททองหลวงพ่อคูณ เป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้

เหรียญหลวงพ่อม่น วัดเนินตามาก รุ่นแรก

หลวงพ่อม่น วัดเนินตามาก จ.ชลบุรี พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่สุด เป็นอันดับ หนึ่ง ของภาคตะวันออก วัตถุมงคลของ หลวงพ่อม่น ชาวเมืองชลโดยเฉพาะ ชาวตังเก ต่างประจักษ์ชัดใน อภินิหารและ ความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งท่านได้ประสิทธิประสาทวิชาอาคมไว้ เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้เอง วัตถุมงคลของท่าน จึงเป็นที่นิยมและต้องการ ของบรรดาลูกศิษย์ลูกหา ที่มีความเคารพศรัทธาเลื่อมใสใน หลวงพ่อม่น ถึงแม้ว่าทาง วัดเนินตามาก จะจัดสร้างวัตถุมงคลในวาระต่างๆเสมอมา ก็ไม่เคยพอเพียงแก่ความต้องการ ยิ่ง รุ่นเก่าๆด้วยแล้วล่ะก็ ชาวเมืองชนหวงแหนกันมาก และเล่นหากันอย่างกว้างขวางทีเดียว โดยเฉพาะ เหรียญหลวงพ่อม่น รุ่นแรก ของแท้ที่วัดสร้างอย่างเป็นทางการที่สร้างเมื่อปี 2529 เนื่องในวาระโอกาสฉลองสมณศักดิ์เป็น พระครูสุจิณธรรมวิมล เป็นเหรียญที่มีศิลปะรูปแบบสวยงามยิ่งนัก รายละเอียด คมลึกชัดเจน และที่สำคัญ หลวงพ่อม่น ปลุกเสกเดี่ยวอย่างเข้มขลังนานถึง ๓ เดือน เหรียญหลวงพ่อม่น รุ่นแรก สร้าง ๔ เนื้อ คือ ทองคำ,เงิน,นวโลหะและทองแดง เครดิตข้อมูล: ศูนย์จองพระเครื่อง

หลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย วัดท่ามะเกว๋น อ.เถิน จ.ลำปาง

ขอเชิญบูชาสั่งจองด่วน วัตถุมงคลสุดล้ำค่ายิ่ง รุ่น มหามงคล 91 หลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย วัดท่ามะเกว๋น อ.เถิน จ.ลำปาง พระผู้เคร่งครัดในวัตรปฎิบัติยิ่ง สวดมนต์-ทำสมาธิเป็นนิตย์ มิเคยขาด เป็นพระที่ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบยิ่ง ท่านไม่ค่อยได้ออกวัตถุมงคลมากนัก จึงนับได้ว่า รุ่น มหามงคล 91 นับเป็นรุ่นที่วิเศษยิ่งในรอบหลายปี ท่านให้จัดสร้างได้เพื่อหาปัจจัยในการบูรณะถาวรวัตถุในวัดที่ทรุดโทรม จึงนับเป็นโอกาสที่ดียิ่งที่พวกเราเหล่าศิษยานุศิษย์ที่รอคอยกันมานานและผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน จะได้ร่วมสร้างบุญสร้างกุศลที่เป็นเลิศยิ่งกับหลวงปู่ครูบาครอง สั่งจองได้ที่ ศูนย์จองพระเครื่อง ชั้นนำ

หลวงพ่อสารันต์ รุ่น 3 ไตรมาส มหาบารมี 51-53

ขอเชิญสั่งจองวัตถุมงคล รุ่น 3 ไตรมาส มหาบารมี 51-53 หลวงพ่อสารันต์ วัดดงน้อย ลพบุรี จัดสร้างด้วยรูปแบบ สวย คม ชัด ขลังศักดิ์สิทธิ์ด้วยการปลุกเสกเดี่ยว ด้วยระยะยาวนาน ยังไม่พอขอต่ออีก 1 พรรษา ก่อนนำออกให้บูชาประกอบพิธีพุทธาภิเษกพิธีใหญ่ จึงนำออกให้บูชาออกพรรษา ปี 54 หลวงพ่อสารันต์ ทำการจัดสร้างรูปเหมือนปั๊มและเหรียญรูปเหมือน โดยเฉพาะเหรียญรูปเหมือนเนื้อทองแดง ส่วนประกอบส่วนนอกเป็นเนื้อทองระฆัง วงการเรียกว่าเหรียญทองแดงยัดไส้ ลักษณะละม้ายคล้ายกับเหรียญสิบบาท แหวกวงการในการจัดสร้างวัตถุมงคลยุคปัจจุบัน หลวงพ่อสารันต์ อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวถึง 3 ไตรมาส(ปี 51-53) และยังประกอบพิธีพุทธาภิษกพิธีใหญ่ที่ วัดดงน้อย เมื่อ 3 ม.ค. 54 พระคณาจารย์ที่มีบารมีมนต์ขลังอธิษฐานจิตปลุกเสกประกอบด้วย หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ พิษณุโลก,หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี,หลวงพ่อศรี วัดหน้าพระลาน สระบุรี,หลวงพ่อสารันต์ วัดดงน้อย ลพบุรี,พระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์ ลพบุรี, เสร็จแล้วได้นำไปอธิษฐานจิตปลุกเสกในพรรษาปี 54 ออกพรรษาปี 54 จึงจะนำออกมาให้บูชากันต่อไป เครดิตข้อมูล: ศูนย์จองพระเครื่อง

พระกริ่งเขมิโยดวงธรรม ปลุกเสกยิ่งใหญ่วัดถ้ำผาจม

พระกริ่งเขมิโยดวงธรรม ปลุกเสกยิ่งใหญ่วัดถ้ำผาจม พระกริ่งเขมิโย / พระชัยวัฒน์ วัดถ้ำผาจม อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ภายในบริเวณวัดมีถ้ำปฏิบัติธรรม ซึ่งมีทางเดินระยะยาวมาก ภายในถ้ำประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อสายรุ้ง ขนาดใหญ่ปางสมาธิ และมีทวยเทพเทวดาคอยรักษา ปัจจุบันมี "หลวงพ่อวิชัย เขมิโย" ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส "หลวงพ่อวิชัย เขมิโย" กล่าวว่า ภายในถ้ำแห่งนี้มีปาฏิหาริย์มากมายกล่าวขวัญตั้งแต่โบราณมาถึงปัจจุบัน มีความเชื่อกันว่าผู้ใดได้เข้าไปในถ้ำแล้วออกมาผู้นั้นจะเป็นผู้ที่ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ความทุกข์ ความยากความจน และจะส่งผลให้ผู้นั้นประสบพบแต่สิ่งดีๆ สิ่งที่เป็นมงคล ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีทุกท่าน ขณะนี้ทางวัดได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมารุ่นหนึ่งรูปแบบ "พระกริ่งเขมิโย รุ่นดวงธรรม" เปิดให้ลูกศิษย์ลูกหาและประชาชนทั่วไปร่วมบุญบูชา เพื่อนำรายได้สร้างโบสถ์ 2 วัด คือ วัดถ้ำผาจม กับวัดเขาคอก อ.บ้านนา จ.นครนายก หลวงพ่อวิชัย เขมิโย พิธีมหาสมโภชพุทธา-เทวาภิเษก กำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 ต.ค.2552 ณ มณฑลพิธีวัดถ้ำผาจม อ.แม่สาย จ.เชีย

หลวงปู่แขก ปภาโส วัดสุนทรประดิษฐ์ รุ่น เจริญพร

ขอเชิญสั่งจองพระเครื่อง วัตถุมงคลสุดล้ำค่ายิ่ง รุ่น เจริญพร หลวงปู่แขก ปภาโส (พระมงคลสุธี) วัดสุนทรประดิษฐ์ ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เปิดจองพระเครื่องแล้วครับ ปิดจองพระเครื่องวันที่ 25 เม.ย. 2554 อธิษฐานจิตปลุกเสกวันเสาร์ที่ 14 พ.ค. 2554 ศูนย์จองพระเครื่อง ทุกศูนย์ รับพระเครื่อง วัตถุมงคลรุ่นเจริญพร ได้ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. 2554 พระครูสุนธรธรรมประภาส (หลวงพ่อแขก วัดสุนทรประดิษฐ์) ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก นามเดิมชื่อ ลำยอง นามสกุล นาทีทองพิทักษ์ เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ.2467 ตรงกับแรม 7 ค่ำ เดือน 10 ปีชวด ณ บ้านกรุงกรัก ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก บิดาชื่อ นายเฮง มารดาชื่อ นางพัน อาชีพทำนา มีพี่น้องรวม 7 คน ท่านเป็นพระอาจารย์ที่ชาวจังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดใกล้เคียงให้ความเคารพนับถือท่านเป็นอย่างมาก เพราะท่านเป็นพระที่ถือสันโดษ บำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง ในด้านการปฏิบัติของท่านนั้น ถือเอาปฏิบัติสัจจะเป็นที่ตั้ง ท่านจึงมีสานุศิษย์ใกล้ชิดที่มีความเคารพมาก เพราะได้ประจักษืแก่สายตาของตนเองมาแล้วทั้งนั้น หลวงปู่แขกท่านมีชื่อเสียงมากทางด้านปลุกเส

โชว์พระเครื่อง หลวงพ่อสาคร มหาโภคทรัพย์ นวะหน้าทองคำ

อดทนไม่ไหว กับความงดงามของเหรียญ มหาโภคทรัพย์ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ วันนี้ต้องขอโชว์ เป็นเนื้อ นวะโลหะหน้าทองคำ

หลวงพ่อเงิน บางคลาน จอบใหญ่

เหรียญ จอบใหญ่ หลวงพ่อเงิน มีจุดตำหนิแห่งหนึ่ง ซึ่งนักเล่นจะให้สำคัญหรือเน้นการพิจารณามาก เพราะจะปรากฎพบทุกองค์นั้นจะสึกลบเลือนไปมากก็ยังเห็นอยู่ คือเส้นขอบเหรียญด้านล่างโย้ขึ้นไปจรดใต้ขาซ้ายแลดูคล้ายกับเส้นบล็อกแตกเป็นทางจากซุ้มไปจรดขา นอกจากนี้ก็ยังมีอีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งนักเล่นเก่งๆพยายามปกปิด หากสวยสมบูรณ์จะเห็น “เนื้อล้น”ที่ข้างหูด้านขวา หรือเหนือหัวไหล่ขวาเป็นสันนูนออกมาเล็กน้อยคล้าย “รอยพับ” อีกทั้งห่วงหูขวาจะปรากฏ “เม็ดไข่ปลา”และเส้นซุ้มแบบเดียวกับด้านข้างองค์พระ โดยมักจะสึกลบเลือน เนื่องเพราะเป็นจุดนูนเหรือบริเวณสัมผัส และความหนาของห่วงระดับใกล้เคียงกับ”ซุ้มข้างองค์พระ” ปัจจุบันเหรียญ “จอบใหญ่” หลวงพ่อเงิน ของแท้แน่นอนหายากมากๆ ส่วนของปลอมเลียนแบบฝีมือยังห่างไกล

ร้อนแรงที่สุดแห่งปี 54 เหรียญ มหาโภคทรัพย์ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ

ร้อนแรงที่สุดแห่งปี 54 เหรียญ มหาโภคทรัพย์  หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ต้นปี 54 เหรียญที่ร้อนแรงที่สุด ต้องยกให้ เหรียญ มหาโภคทรัพย์ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ด้วยเหรียญมีความงดงาม พิธีปลุกเสกเดี่ยว วัตถุประสงค์ชัดเจน วันนี้มาชมด้านหลังเหรียญที่แรงที่สุดในปัจจุบันกันค่ะ ณ.วันที่เขียน ยังไม่ได้รับพระที่จองเพราะอยู่ต่างจังหวัด รับพระช้ากว่าท่านอื่นประมาณ 2 วัน เลยขอใช้รูปท่านอื่นก่อน ทนไม่ไหว....แรงจริงๆๆ บรรจุอักขระยันต์ครูตามแบบหลวงปู่ทิม อิสริโก เป็นประธาน หลวงพ่อสาคร ท่านได้กำหนดให้อักขระล้อมรอบชั้นในและชั้นนอก ดังนี้ “ปิโยเทวะมนุสสานัง ปิโยพรหมานะมุตตะโม ปิโยนาคะสุปัณณานัง ปิยินทรียังนะมามิหัง” แปลว่า “ผู้เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นที่สูงสุดของพรหมทั้งหลาย เป็นที่รักตลอดไปถึงดิรัจฉานมีนาคและครุฑเป็นอาทิ ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าผู้มีอินทรีย์อิ่มพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า” พระคาถานี้ถือว่าเป็นสุดยอดทางเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ แฝงคติทางพระพุทธศาสนาที่สื่อถึงความหมายแห่งการสรรเสริญคุณของพระพุทธเจ้าอันเป็นที่รักแห่งชนทั้งปวง ด้วยว่าเป็นพุทธคุณบทเมตตาอันล้ำเลิศในพ

หลวงพ่อสาคร หนุมาน มหาปราบ ตอนที่ 2

หลวงพ่อสาคร หนุมาน มหาปราบ ตอนที่ 2 รูปลักษณะ เป็นรูปหนุมานนั่งยองคล้ายรูปแบบของหลวงปู่ทิมผู้เป็นปรมาจารย์ แต่ได้เพิ่มเติมเสริมให้ เป็นหนุมานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของ หลวงพ่อสาคร โดยมือทั้งสองข้างวางที่หัวเข่าในลักษณะท่านั่งของลิงอย่างเป็นธรรมชาติ ในลักษณะเตรียมพร้อมลุกขึ้นสู้ต่อกรกับเหล่าไพรีอยู่เสมอ หนุมาน มหาปราบ เท้าทั้งสองวางบนหินและหางพันรอบตามเรื่องราว เมื่อครั้งที่หนุมานไปหายาสังกรณีตรีชวาที่เขาสรรพยา เพื่อนำปรุงเป็นยามารักษาพระลักษมณ์ที่ต้องหอกโมกขศักดิ์ โดยหนุมานใช้หางพันรอบเขาสรรพยา เพื่อล่อให้ยาหนีขึ้นไปอยู่บนยอดเขา ฐานเป็นฐานกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 1.25 ซม. ด้านหน้ามีอักขระ “หะนุมานะ” คือ หัวใจ หนุมาน และด้านหลังมีอัก่ขระ “นะสังสะตัง” คือ กำลังหนุมาน ขนาดความสูง จากฐาน 2.7 ซม. ลวดลายต่างๆในตัวหนุมานได้ถูกรังสรรค์ขึ้น มาอย่างวิจิตรงดงาม ทรงคุณค่าแห่งงานศิลป์ที่ครบถ้วนด้วยศาสตร์ของการสร้างหนุมานตามตำราแห่งโบราณาจารย์

หนุมาน มหาปราบ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ตอนที่ 1

หนุมาน มหาปราบ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ บุญญานุสรณ์แห่งกฐิน ๕๒ หลวงพ่อสาคร มนุญฺโญ วัดหนองกรับ ตำบลหนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ในงานกฐินปี 2552 นี้ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ทายาทสืบสานแห่งพุทธาคมของหลวงปู่ทิม ได้มีดำริให้จัดสร้าง หนุมานขึ้นเพื่อแจกแก่ผู้ร่วมทำบุญกฐินในปี 2552 นี้ โดยให้ทำตามรูปแบบรอยเดิมของหลวงปู่ทิม คือ หนุมานนั่งยอง ในลักษณะเตรียมพร้อมลุกขึ้นต่อสู้อยู่เสมอ แต่ต้องการให้เป็นเอกลักษณะ เฉพาะของวัดหนองกรับ และที่สำคัญทำให้งดงามอย่างที่สุดครบถ้วน ทั้งศาสตร์และศิลป์ ซึ่งถือเป็นการจัดสร้าง หนุมานลอยองค์ครั้งแรกของหลวงพ่อสาคร และหลวงพ่อสาครเองท่านเป็นผู้มีกำเนิดวันเดียวกับหนุมานคือ วัน อังคาร เดือนสาม ปีขาล ว่ากันว่าบุคคลที่มีดวงกำเนิดเช่นนี้เป็นผู้มี ตบะ เดชะ ได้โฉลกกับการปลุกเสก หนุมาน มหาปราบ อย่างยิ่ง ท่านได้กำหนดพิธีกรรมในการปลุกเสกตามตำรา หลวงปู่ทิม คือ กำหนดเสก ๕ เสาร์ ๕ อังคาร เพื่อให้หนุมานมีฤทธิ์เดชอานุภาพอย่างสูงสุดก่อนการปลุกเสกนั้น ท่านได้ทำ พิธีชุบตัวหนุมาน ด้วยศรมารายณ์เป็นเวลา ๗ วัน ๗ คืน ในอุโบสถวัดหนองกรับโดย หลวงพ่อสาครท่านไ